Page 42 - รายงานสรุปโครงการประชุมวิชาการระดับชาติ ชุมคน ชุมชน คนใต้ ครั้งที่ 3
P. 42
๔๑
ผมขอยกตัวอยางสังคมที่ผมคุนเคย อยางญี่ปุุน เวลาเราพูดถึงกลุมของญี่ปุุน จะเป็นกลุมที่มีความเหนี่ยว
แนนมาก แมวานาย ก กับนาย ข ทะเลาะกัน เกลียดขี้หนากันไมวาเรื่องอะไรก็ตาม แตวาการเกลียดขี้หนากันของ
สองคนนี้จะลดลงหรือถูกกดทับไมใหแสดง เพราะเขามีอุดมคติการบรรลุผลส าเร็จของกลุม ไมวากลุมจะไมรูวาการ
บรรลุคืออะไร อันนี้ส าคัญ อยากใหพวกเราไดคิดวาเราไดสรางสรรคแสิ่งที่ส าคัญมากๆในสังคม การสรางที่ผมเรียกวา
อุดมคติของกลุมขึ้นมา
ถาอาน paper ทั้งหมด เราจะพบวาลักษณะแบบนี้ กระจัดกระจายอยูในทุก paper ไมวาจะเป็นบทบาท
ของผูหญิง บทบาทของโรงเรียนวิถีอิสลาม หรือชุมชนตักวา การสรางอุดมคติของชีวิตและชุมชนที่ลอยอยูเหนือ
ความขัดแยงระหวางบุคคลนี้ จะเป็นเปูาหมายส าคัญที่จะผลักดันทั้งชุมชนเดินไปได
กรณีชุมชนศรัทธาที่พูดถึงสี่เสาหลัก ครั้งหนึ่งอาจจะอิจฉา ทะเลาะกัน หรือหมั่นไส หรือรูสึกวาบทบาท
แยกกัน แตทันทีที่สี่เสาหลักมารวมกัน และคิดถึงชุมชนศรัทธาขั้นมา ทั้งสี่เสาหลัก ไดสรางสรรคแในสิ่งที่กดทับเรื่อง
สวนตัวลงไป การสรางอุดมคติของชีวิตและชุมชนแบบนี้ จะน าไปสูการแกไขปใญหาตางๆดวยตัวเอง และชุมชนมาก
ยิ่งขึ้น แตละคนเริ่มที่จะไมเพิกเฉยตอปใญหา ไมวาจะเป็นปใญหาบานเมือง ปใญหาศาสนา ปใญหาอื่นๆ เราทั้งหมดก็จะ
ไดมีสวนรวมกัน และที่ส าคัญมันท าใหเราบรรลุเปูาหมายของชีวิตและชุมชน นักเรียนที่รองเพลงชีวิตของลูกก าพรา
ผมคิดวาในเพลงก็มีเปูาหมายในชีวิตและชุมชนอยู ซึ่งสามารถบรรลุไดดวยตัวเรา แตเราประสานกันเป็นชุมชน
ขณะเดียวกันสังคมเปลี่ยนความหมายจากการเป็นชุมชนธรรมดา ในสังคมไทยเราจะนึกถึงความเป็นชุมชนในแงที่วา
เราทั้งหมดสัมพันธแกัน แนบแนนกัน รักกัน เราเขาใจชุมชนในความหมายนี้เทานั้น ซึ่งชุมชนในความหมายนี้ ความรัก
ความเอื้อเฟื้อ หรืออื่นๆ มันมีวันเสื่อมสลาย หรือถูกกระทบไดงาย ถาเรานึกถึงกลุม วัฒนธรรมชุมชน เราจะนึกถึง
ความรักกัน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผกัน เราไมไดปฏิเสธวาเป็นสิ่งที่ไมถูกตอง แตสิ่งนี้เป็นสิ่งที่จะถูกกระทบไดโดยงาย
จากการแสวงหาผลประโยชนแสวนตัว ในภาคเหนือเอง ทันทีที่ระบบทุนเขามา เราเองก็จะพบวา สมบัติของชุมชน ถูก
ท าใหพังทลายไปทันที ดังนั้นสิ่งที่พวกเราก าลังคิดกันอยูตอนนี้ก็คือวามันจะท าใหเปลี่ยนความหมายจากชุมชนปกติที่
มีความรัก ความเอื้ออาทรกัน เป็นชุมชนที่มีความศรัทธารวมกัน ในการจัดการตรงนี้ ผมคิดวา นาจะถอดออกมาเป็น
โมเดล สามารถสรุปออกมาวา เราจะสรางโมเดลเหลานี้ เพื่อท าใหเกิดการเรียนรูรวมกันอยางไร
การสรางอุดมคติของชีวิตและชุมชน ยอมทาทายทุกวิธีคิด นี่คือเสียงของผูไรเสียงที่ไมไดเกิดขึ้นบนฐานของ
ปใจเจก แตบนฐานของชุมชน และมันท าใหเกิดความทาทายวาคุณจะอยูรวมกับเขา คุณจะตองเดินตามชุมชนที่หนัก
แนนแบบนี้ จึงไมแปลกใจเลยที่ชุมชนตักวา จะมีคนจ านวนไมนอยที่สนใจ แหลงทุนหลายอยางเห็นวานี่คือทางออก
อีกทางหนึ่งที่ส าคัญ
การสรางอุดมคติของชีวิตและชุมชนจะชวยท าใหวัยรุนที่อาจจะนึกถึงผลประโยชนแสวนตัว ความสนุก ความ
สะดวกสบายไดทีความตระหนักมากขึ้น ถาหากปราศจากการมีอุดมคติของชีวิตและชุมชน คิดวายากมากๆที่จะดึง
คนกลับมาและเสียสละสวนตัวลงไป การพูดถึงจิตสาธารณะลอยๆโดยไมพูดถึงการมีอุดมคติของชีวิตและชุมชน ไม
สามารถที่จะน าไปสูปฏิบัติการจริงได และอุดมคติของชีวิตและชุมชนนี้จะน าไปสูการสรางสมบัติของชุมชนขึ้นมา
และการสรางสมบัติของชุมชนขึ้นมานั้น มีนัยยะตอชีวิตทุกชีวิต
รายงานโครงการประชุมวิชาการระดับชาติ ชุมคน ชุมชน คนใต ครั้งที่ ๓ เสียงจากผูไรสิทธิชายแดนใต