Page 75 - เสียงจากประชาชน การต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดิน กรณีร้องเรียน 2545-2550. เล่ม 4 : "ที่ดินในเขตป่าและสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและป่า"
P. 75

Ù.Ú.Û §«“¡¢—¥·¬âß„π°√–∫«π°“√æ‘ Ÿ®πå ‘∑∏‘„π∑’Ë¥‘π

                  เมื่อรัฐยอมรับแนวคิด “คนอยูกับปา” การ    ซ้ำรายไปกวานั้น รัฐไดมีนโยบายประกาศ
            พิสูจนสิทธิในที่ดินจึงเปนกระบวนการสำคัญที่รัฐ พื้นที่ปาหลายประเภททับซอนโดยไมมีการ
            ใชตัดสินวา ระหวางรัฐกับประชาชน ใครมีสิทธิดี สำรวจพื้นที่จริง จึงทำใหประชาชนเสียสิทธิใน

            กวาในพื้นที่พิพาท  แตในกระบวนการพิสูจน รัฐ ที่ดินเพราะนโยบายดังกลาว และหนวยงานของ
            กลับไมเปดโอกาสใหมีการตีความ หรือใชการ รัฐไดกดดันดวยการจับกุม ขมขูคุกคาม อพยพ
            อธิบายสิทธิในการครอบครอง ผานหลักฐานอื่นๆ  โยกยายประชาชนใหออกจากพื้นที่ หรือหามตัด

            ที่รัฐไมยอมรับ  รัฐไดกำหนดคำนิยาม  หลัก โคนไมยางหากหมดอายุ ดวยสมมติฐานวาทุก
            เกณฑ หลักฐาน และวิธีการพิสูจนขึ้นเอง โดย รายคือผูบุกรุกพื้นที่ปา  กระบวนการสำรวจผู
            อางความรูทางวิทยาศาสตร  และหลักฐาน ครอบครองที่ดิน ประชากรและการจัดทำแผนที่
            ทางเอกสารและกฎหมายของรัฐ โดยไมมีเกณฑ ของภาครัฐเปนไปอยางลาชา และขาดการมีสวน
            ที่มาจากการมีสวนรวมของประชาชน            รวมของผูที่ไดรับผลกระทบโดยตรง จึงทำให

                  ดังนั้น จุดเริ่มตนและความเขาใจที่ไมตรง กระบวนการสำรวจดังกลาวยังมีปญหาการตกหลน
            กัน  จึงนำไปสูความขัดแยงที่ซับซอน  ซึ่งมี ของประชาชนที่ไมถูกสำรวจ และในที่สุดยังเสีย
            ประเด็นที่สำคัญดังนี้                      สิทธิในที่ดิน จากกระบวนการพิสูจนสิทธิที่ดินซึ่ง
                                                       ไปตามขั้นตอนลาชา และไดสรางแรงกดดันใหมี

                  ก. เนนการใชหลักฐานจากเอกสาร
            สิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดิน                 การบุกรุกปาเพิ่มขึ้นทั้งจากบุคคลภายนอก
                                                       ชุมชน และคนในชุมชนที่ยังไมมีความมั่นคงใน
                  รัฐจะยอมรับเฉพาะเอกสารสิทธิที่ดินตาม
            กฎหมาย ซึ่งไดแก น.ส.๓ น.ส.๓ ก โฉนดที่ดิน   ที่ดินทำกิน

            และเอกสารสิทธิที่ดินตามโครงการที่รัฐจัดสรร       ข. ไมเขาใจและไมยอมรับวิถีการผลิต
            ที่ดินใหกับประชาชน เชน น.ค.๓ (นิคมสราง  ของชนเผาในที่สูง
            ตนเอง) หรือ กสน.๕ (นิคมสหกรณ) โดยไมได         วิถีการทำเกษตรกรรมของชนเผาไม
            พิจารณาจากความเปนจริงวาพลวัตการเปลี่ยน  ตอเนื่องในพื้นที่แปลงเดิม ซึ่งปรากฏในหลาย

            แปลงการบุกเบิกและการครอบครองที่ดินของ กรณีคำรองเรียนตอ กสม. โดยเฉพาะอยางยิ่ง
            ประชาชนเปนไปตามนโยบายการพัฒนาประเทศ กรณีของชนเผาปกากะญอซึ่งมีวัฒนธรรมการทำ
            มายาวนาน ในขณะที่กระบวนการใหเอกสาร ไรหมุนเวียน งานศึกษาของ อานันท กาญจนพันธุ
            สิทธิที่ดินของภาครัฐไมมีประสิทธิภาพ และมี และคณะ รายงานวิจัยเรื่อง “ระบบการเกษตร

            ประชาชนจำนวนมากที่ตกหลนจากการได แบบไรหมุนวียน เลม ๑ สถานภาพและความ
            เอกสารสิทธิที่ดินทั้งที่มีหลักฐานการแจงการ เปลี่ยนแปลง  (๒๕๔๗  :  ๘๗  –  ๘๘)”ไดชี้วา
            ครอบครองที่ดิน ส.ค.๑ หรือกระบวนการเก็บ  ระบบไรหมุนเวียนเปนระบบวนเกษตรรูปแบบ
            ส.ค.๑ ไปเพื่อจะออกโฉนดที่ดินแตดำเนินการไม หนึ่งที่มีความสัมพันธเชื่อมโยงกันระหวางการ

            ทั่วถึง โดยที่เจาหนาที่รัฐไมคืน ส.ค.๑ ใหกับ เกษตรกับปา กลาวคือในชวงเวลาของการทำไร
            ประชาชน                                    หมุนเวียน พื้นที่ปาจะถูกปรับเปลี่ยนใหเปนพื้นที่


                    เสียงจากประชาชน
            74      การตอสูเพื่อสิทธิในที่ดิน กรณีรองเรียน ๒๕๔๕-๒๕๕๐
   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80