Page 69 - วารสารวิชาการสิทธิมนุษยชน. ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม - ธันวาคม 2561)
P. 69
68 วารสารวิชาการสิทธิมนุษยชน
สิทธิชุมชนประมงพื้นบ้�นอ่�วปัตต�นี :
พลวัตในก�รเข้�ถึงสิทธิชุมชนจ�กหล�กหล�ยมิติ
สิทธิ (Rights) ในสภาวะสังคมสมัยใหม่นั้นได้ถูกกำาหนดขึ้นพร้อมกับระบบความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน
ระหว่างรัฐ และสังคม ความเข้าใจในเรื่องที่ว่ามนุษย์คนหนึ่งเกิดมาจะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
ตลอดจนสวัสดิการทางสังคมโดยรัฐนั้น จึงเป็นเรื่องที่มีการประกอบสร้างภายหลังผ่านตัวแสดงที่เป็นรัฐ
ถึงกระนั้น กลไกทางเศรษฐกิจตามแนวความคิดของอดัม สมิธ ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 จนถึงศตวรรษที่ 20
ก็มีความสำาคัญในการทำาให้เรื่องสิทธิเป็นสิ่งที่เข้ากำาหนดขนาดของรัฐเชิงอำานาจ ตลอดจนกลไกทางกฎหมาย
ในการที่จะชี้ชัดถึงสิทธิในการเข้าควบคุมรัฐผ่านระบบนิติรัฐ (ธเนศ วงศ์ยานนาวา, 2559, น. 348) จึงกล่าวได้ว่า
สิทธินั้นเป็นการประกอบสร้างผ่านสภาวะของความเป็นสมัยใหม่ ในขณะเดียวกัน สภาวะความเป็นสมัยใหม่นี้เอง
ก็มีความต้องการที่จะสลัดความคิดเรื่องความเชื่อหรือศาสนาออกไป (ธเนศ วงศ์ยานนาวา, 2544) เพื่อแสดง
ให้เห็นถึงความกล้าหาญที่จะกำาหนดวิถีชีวิตหรือความเป็นไปแห่งชะตากรรมด้วยตนเอง การเกิดแนวคิดว่าด้วย
สัญญาประชาคม (Social Contract Theory) จึงเป็นเครื่องหมายทางประวัติศาสตร์ว่าด้วยสิทธิในสังคมสมัยใหม่
ที่แสดงให้เห็นความสำาคัญของผู้คนต่อการกำาหนดสังคมการเมืองผ่านความเป็นปัจเจก (Individual) โดยที่สมาชิก
ในสังคมต่างเชื่อว่าตนมีสิทธิในการกำาหนดชะตากรรมทางการเมือง ซึ่งหากมองตามวิธีคิดแบบศาสนาแล้วนั้น
ชะตากรรมเป็นเรื่องที่พระผู้เป็นเจ้ากำาหนดมาตั้งแต่เดิม ชะตากรรมไม่ใช่เรื่องของมนุษย์ที่จะทำาการแตะต้อง
ตกแต่งหรือให้เป็นไปตามความปรารถนาของตน แม้ว่าพลังอำานาจในการกำาหนดชะตากรรมนั้นจะมาจากสิ่งที่
เรียกว่า เจตจำานงร่วมทางการเมือง (Political Will) ก็ตาม
บริบททางสังคม ถือว่ามีอิทธิพลสำาคัญในการกำาหนดความเข้าใจว่าสิทธินั้นเป็นไปตามวิธีคิด และ
วิถีชีวิตในลักษณะแบบใด การอธิบายสิทธิด้วยกับการสร้างมาตรฐานเดียวในการทำาความเข้าใจวิถีชีวิตของ
ผู้คนในสังคมที่ก่อกำาเนิดขึ้นอย่างซับซ้อนในทางประวัติศาสตร์จึงเป็นการทำาความเข้าใจที่คับแคบและตายตัว
สิทธิการดำารงอยู่ของผู้คนในทางสังคมจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปตามบริบทของชุมชนหรือสังคม อันเป็นธรรมชาติของ
ผู้คนในแต่ละถิ่นนั้น ๆ ตั้งแต่เดิม ถึงกระนั้น พลวัตทางสังคมที่ปรับเปลี่ยนไปกลับนำาไปสู่ความทับซ้อนในเรื่องของ
ชุดคุณค่า และการให้ความหมายทางสังคม การแสดงอำานาจเพื่อลดทอนหรือตัดทิ้งผ่านการต่อสู้ของสภาวะ
ต่าง ๆ จึงดำาเนินมาตลอดในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอินเดียนแดงในทวีปอเมริกา หรือ
การล่าอาณานิคมของจักรวรรดิอังกฤษ ตลอดจนการกำาหนดความเป็นตะวันออก ตะวันตก ได้แสดงให้เห็นถึง