Page 17 - วารสารวิชาการสิทธิมนุษยชน. ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม - ธันวาคม 2561)
P. 17

16     วารสารวิชาการสิทธิมนุษยชน






                                                           15
                      14
            democracy)  โดยสะท้อนออกจากข้อมติและข้อแนะนำาหลายครั้ง  เพื่อที่จะทำาให้การแสดงออกซึ่งความคิดเห็น
            เป็นไปอย่างเสรีตามหลักเสรีภาพในการแสดงออกซึ่งความคิด เพื่อเป็นการตรวจสอบการทำางานภาครัฐ และ

            เพื่อเปิดโปงและป้องกันการกระทำาอันทุจริตหรือมิชอบของภาครัฐ โดยผู้ที่ติดตามตรวจสอบไม่ต้องอยู่ภายใต้
            ความเกรงกลัวเรื่องการถูกฟ้องและถูกลงโทษจำาคุกทางอาญาฐานหมิ่นประมาท และแม้การใช้เสรีภาพในการ

            แสดงออกดังกล่าวอาจไปพาดพิงบุคคลอื่น ก็ควรกำาหนดให้เป็นความรับผิดทางแพ่ง ที่อยู่ในบริบทของการเรียก

            ค่าเสียหายแทน
                                                                                          16
                          อย่างไรก็ตาม สังคมไทยยังมีแนวคิดที่จะให้มีการลงโทษทางอาญาฐานหมิ่นประมาทอยู่มาก
            และผู้ที่ดำาเนินคดีฐานหมิ่นประมาทก็มีทางเลือกมากมายเพื่อเรียกร้องประโยชน์ที่ตนต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการฟ้อง

            คดีแพ่ง การฟ้องคดีอาญา และการร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำาเนินคดีให้ หากเป็นกรณีหมิ่นประมาททั่วไปที่
                                                                                      17
            ไม่ใช่กรณีของการฟ้องข่มขู่หรือคุกคาม ผู้ดำาเนินคดีมีทางเลือกที่จะดำาเนินคดีหลายทาง ซึ่งจากการศึกษา  พบว่า
            การฟ้องคดีอาญาเองและการร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำาเนินคดีอาญาให้เป็นแนวทางที่ให้ “ประโยชน์รวม”
            (total benefit) กับผู้ดำาเนินคดีมากกว่า “ต้นทุนรวม” (total cost) ที่ผู้ดำาเนินคดีจะต้องสูญเสีย เหตุที่การดำาเนิน

            คดีอาญามีต้นทุนน้อยกว่าการดำาเนินคดีแพ่ง เพราะคดีอาญาไม่มีค่าขึ้นศาลและค่าใช้จ่ายในการดำาเนินคดี และ

            เหตุที่การดำาเนินคดีอาญาให้ประโยชน์กับผู้ดำาเนินคดีมากกว่าการดำาเนินคดีแพ่ง เพราะโทษทางอาญาและประวัติ
            ว่าได้กระทำาความผิดในทางอาญามีความรุนแรง น่าเกรงกลัว และอาจสร้างความเสียหายให้กับผู้กระทำาความ

            ผิดอย่างมาก จึงเป็นการใช้การดำาเนินคดีอาญามาบีบและสร้างอำานาจต่อรองให้กับผู้ดำาเนินคดีเหนือผู้กระทำา
            ความผิดในกรณีที่มีการเจรจาประนีประนอมยอมความ

                        การใช้การดำาเนินคดีอาญาฐานหมิ่นประมาทเพื่อยับยั้งการมีส่วนร่วมในประเด็นสาธารณะหรือ

            การดำาเนินคดีอาญาหมิ่นประมาทโดยการฟ้องข่มขู่หรือคุกคาม ก็เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกันใน
            มุมมองของผู้ดำาเนินคดี แม้ว่าผู้ดำาเนินคดีอาญาหมิ่นประมาทโดยการฟ้องข่มขู่หรือคุกคาม อาจจะไม่ต้องการ



                       14    From Council of Europe, Resolution 1577 (2007) number 1, by Parliamentary Assembly,
            Retrieved from http://assembly.coe.int/nw/xml/XRef/Xref-XML2HTML-en.asp?fileid=17588&lang=en
                       15    “ข้อแนะนำา” (recommendation) ที่ 1589 ปี ค.ศ. 2003 เกี่ยวกับเรื่องเสรีภาพในการแสดงออกของ
            สื่อมวลชนในยุโรป “ข้อมติ” (resolution) ที่ 1535 ปี ค.ศ. 2007 เกี่ยวกับเรื่องการข่มขู่ชีวิตและเสรีภาพของสื่อมวลชน
            และล่าสุดรัฐสภายุโรป European Council ได้มีข้อมติ (resolution) ที่ 1577 เมื่อ ปี ค.ศ. 2007 เรื่องการมุ่งไปสู่การ
            ยกเลิกความผิดอาญาฐานหมิ่นประมาท (Towards decriminalization of defamation).  จาก แนวทางการยกเลิกโทษ
            อาญาในกฎหมายเช็คและกฎหมายหมิ่นประมาท ใน โครงการวิเคราะห์กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมทางอาญาด้วย
            เศรษฐศาสตร์, โดย สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ และคนอื่น ๆ, 2554, กรุงเทพฯ: สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย.
                       16    สะท้อนจากความเห็นส่วนหนึ่งของการนำาเสนอรายงานการวิจัย. จาก แนวทางการยกเลิกโทษอาญา
            ในกฎหมายเช็คและกฎหมายหมิ่นประมาท. หน้าเดิม.
                       17    แหล่งเดิม.
   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22