Page 95 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2565
P. 95
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ 93
ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2565
ส�าหรับด้านสุขภาพจิต สธ. ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน เพื่อบูรณาการการท�างานร่วมกันเพื่อให้ความช่วยเหลือ
“BuddyThai” น�าร่องให้โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร เด็กอย่างรอบด้าน ซึ่งสอดคล้องกับข้อเสนอแนะของ
ทดลองใช้งาน เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชน คณะกรรมการประจ�าอนุสัญญา CRC ที่แนะน�าให้รัฐ
ที่โดนกลั่นแกล้งรังแก (bully) ในขณะที่ข้อมูลการขอรับ พัฒนาระบบการเก็บข้อมูลเพื่อน�าไปวิเคราะห์และเผยแพร่
บริการปรึกษาปัญหาทางโทรสายด่วนสุขภาพจิต 1323 อย่างไรก็ดี เนื่องจากระบบต่าง ๆ เป็นระบบใหม่จึงยังมี
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 มีผู้เข้าใช้บริการที่เป็นเด็กและ ผู้เข้ามาใช้งานจ�านวนไม่มาก และจากข้อมูลสถิติและ
เยาวชนอายุ 12 - 18 ปี จ�านวน 41 ราย ประเด็นที่ขอรับ สถานการณ์ความรุนแรงที่ปรากฏตามสื่อบ่งชี้ว่า การกระท�า
การปรึกษามากที่สุดคือ ถูกล้อเลียนรูปร่างบุคลิกภาพ ความรุนแรงต่อเด็กยังเกิดขึ้นในทุกมิติ เช่น การใช้ความ
และปัญหาการปรับตัวเข้ากับกลุ่มเพื่อน 394 รุนแรงทางร่างกาย จิตใจ การลงโทษเด็ก เป็นต้น และ
กลุ่มผู้กระท�าความรุนแรงยังมีความหลากหลายมากขึ้น
ทั้งนี้ มีรายงานปัญหาการใช้ความรุนแรงต่อเด็ก
ที่ปรากฏตามสื่อหลายกรณีที่เด็กถูกกระท�ารุนแรงจาก ทั้งบุคคลในครอบครัว บุคลากรทางการศึกษา รวมถึงเด็ก
บุคคลในครอบครัว เช่น เด็กชายถูกพ่อเลี้ยงท�าร้ายร่างกาย ต่อเด็กด้วยกัน โดยรัฐยังไม่ได้ยกระดับเรื่องการคุ้มครอง
396
จนเสียชีวิต เด็กหญิงถูกยายใช้ไม้ตีศีรษะจนเสียชีวิต เด็กจากความรุนแรงให้เป็นนโยบายส�าคัญระดับชาติ
395
เป็นต้น ความรุนแรงที่เกิดจากบุคลากรทางการศึกษาและ ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการประจ�าอนุสัญญา
นักเรียนด้วยกันเอง เช่น กรณีครูท�าร้ายร่างกายเด็กนักเรียน CRC และข้อเสนอแนะจากกระบวนการ UPR ที่รัฐบาล
397
จนได้รับบาดเจ็บ กรณีนักเรียนถูกรุ่นน้องท�าร้ายร่างกาย รับมาด�าเนินการ
398
จนเสียชีวิต เป็นต้น นอกจากนี้ มีเหตุการณ์กระท�ารุนแรง ข้อเสนอแนะในกำรส่งเสริมและคุ้มครอง
ต่อชีวิตและร่างกายของเด็กจ�านวนมากในศูนย์พัฒนา สิทธิมนุษยชน
เด็กเล็ก จ. หนองบัวล�าภู ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
อย่างร้ายแรง กสม. จึงได้ออกแถลงการณ์ให้ภาคส่วนต่าง ๆ กสม. เห็นควรมีข้อเสนอแนะ ดังนี้
ปฏิบัติและค�านึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนเพื่อช่วยบรรเทา 1) รัฐบาลโดย พม. ควรยกระดับการแก้ไขปัญหา
ผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยขอให้รัฐบาลด�าเนินการให้ การกระท�ารุนแรงต่อเด็กให้เป็นนโยบายส�าคัญระดับชาติ
ความช่วยเหลือ เยียวยาความเสียหาย และฟื้นฟูสภาพจิตใจ โดยเร่งด่วน โดยก�าหนดแนวทางเพื่อป้องกันและรับมือ
ของผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วและทั่วถึง และวางมาตรการ แก้ไขความรุนแรงต่อเด็กในทุกรูปแบบ ตลอดจนเสริมสร้าง
ป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ�้า 399 กลไกโดยเฉพาะกลไกในระดับท้องถิ่นให้เข้มแข็งและมี
ประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือเยียวยาเด็ก
กสม. จึงได้ออกแถลงการณ์ให้รัฐบาลดำาเนินการ ที่ถูกกระท�ารุนแรงให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติได้
ให้ความช่วยเหลือ เยียวยาความเสียหาย และฟื้นฟู
สภาพจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วและทั่วถึง 2) รัฐบาลโดย ศธ. พม. สธ. ดศ. และ ตร. ควร
และวางมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซำ้า บูรณาการท�างานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อ
เด็กในรูปแบบออนไลน์ โดยเฉพาะปัญหาการกลั่นแกล้ง
รังแก (bully) ทั้งในเชิงป้องกันและแก้ไข เช่น การอบรม
กำรประเมินสถำนกำรณ์สิทธิมนุษยชน
ให้ความรู้แก่เด็กทุกช่วงชั้น บุคลากรทางการศึกษา และ
หน่วยงานของรัฐมีมาตรการ/กลไกในการป้องกัน ผู้ปกครอง รวมทั้งมีการติดตามประเมินผลความรู้ความเข้าใจ
แก้ไข และให้การช่วยเหลือเด็กจากการถูกกระท�ารุนแรง สร้างกลไกที่มีประสิทธิภาพในการให้ความช่วยเหลือเด็ก
ในรูปแบบต่าง ๆ และมีการริเริ่มในการเชื่อมโยงฐานข้อมูล เมื่อตกเป็นเหยื่อความรุนแรงออนไลน์ เป็นต้น
001-234 V9 CS6.indd 93 3/14/23 8:40 PM

