Page 155 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2565
P. 155

รายงานผลการประเมินสถานการณ์   153
                                                                           ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี  2565



                        ในปี 2565 ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาด     ของชุมชนและภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งในกระบวนการจัดการที่ดิน
                 ของโรคโควิด 19 คลี่คลายลง รัฐบาลมีนโยบายให้       ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการจัดท�า
                 สถานศึกษากลับมาจัดการเรียนการสอนแบบปกติ โดยได้    กฎหมาย รวมทั้งเร่งด�าเนินการตรากฎหมายนิรโทษกรรม

                 จัดหาวัคซีนให้แก่เด็กนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา   ให้แก่ราษฎรซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบ
                 อย่างทั่วถึง มีการติดตามนักเรียนที่หลุดจากระบบการศึกษา   จากนโยบายของรัฐ
                 ได้เป็นส่วนใหญ่ และมีการให้การช่วยเหลือด้านการเงิน        ในส่วนการด�าเนินการโครงการพัฒนาของรัฐ

                 แก่ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์เพื่อสร้างความเสมอภาค       หรือของเอกชนที่รัฐเป็นผู้อนุญาต ผลการตรวจสอบ
                 ในการเข้าถึงสิทธิด้านการศึกษาผ่านกองทุน กสศ. และ    เรื่องร้องเรียนของ กสม. ยังคงพบปัญหาเกี่ยวกับการ
                 กยศ. แต่ยังมีประเด็นที่น่าห่วงกังวลคือ ปัญหาการสูญเสีย   มีส่วนร่วมของบุคคลหรือชุมชนที่อาจได้รับผลกระทบ

                 การเรียนรู้ (learning loss) ของเด็กปฐมวัยโดยยังไม่มี   ด้านสิทธิมนุษยชนจากการด�าเนินโครงการ และการเข้าถึง
                 ข้อมูลที่ชัดเจนถึงความรุนแรงของปัญหา รวมทั้งยังมี   ข้อมูลข่าวสารที่ส�าคัญเพื่อประกอบการรับฟังความคิดเห็น
                 เด็กนักเรียนอีกจ�านวนหนึ่งที่ยังไม่สามารถติดตาม   อย่างเพียงพอและครบถ้วน ซึ่งไม่สอดคล้องกับสิทธิชุมชน

                 ให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาได้ ซึ่งเป็นความท้าทายของรัฐ   ที่ได้รับการรับรองในรัฐธรรมนูญ กสม. จึงมีข้อเสนอแนะ
                 ในการจัดการกับปัญหาดังกล่าวเพื่อน�าเด็กส่วนที่เหลือ   ให้หน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่ด�าเนินโครงการพัฒนา
                 กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาและจัดหลักสูตรเพื่อให้ได้รับ   ต่าง ๆ ต้องค�านึงถึงการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ให้ความ

                 การพัฒนาการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัย               ส�าคัญกับการเปิดเผยข้อมูลและรับฟังความคิดเห็น รวมทั้ง

                        สถานการณ์ด้านสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดิน    ต้องจัดท�ามาตรการป้องกัน แก้ไขหรือเยียวยาผู้ที่ได้รับ
                 ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐบาลมีความพยายาม   ผลกระทบอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม

                 ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นในการแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดิน      ในปี 2565 รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
                 และพื้นที่ทับซ้อนระหว่างเขตป่าอนุรักษ์กับที่อยู่อาศัย  พยายามขับเคลื่อนแผน NAP เพื่อส่งเสริมการประกอบ
                 และที่ดินท�ากินของประชาชน โดยการยกระดับโฉนด       ธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชนตามหลักการชี้แนะ

                 ชุมชนเพื่อจัดสรรที่ท�ากินให้แก่ประชาชนและปรับปรุง  ของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน เช่น
                 แผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ ซึ่งสอดคล้อง  การเปิดเผยข้อมูลจากองค์กรธุรกิจตามแบบรายงานของ

                 กับข้อเสนอแนะของ กสม. และรัฐธรรมนูญที่ก�าหนด      ก.ล.ต. แต่ยังมีข้อท้าทายด้านการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ
                 ให้รัฐกระจายการถือครองที่ดินให้ประชาชนอย่างทั่วถึง  เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชน
                 และเป็นธรรม รวมทั้งการแก้ไขปัญหาประชาชนที่ได้รับ  ในวงกว้างและมาตรการเปิดเผยข้อมูลที่อาจยังไม่ครอบคลุม
                 ผลกระทบจากนโยบายของรัฐเกี่ยวกับการอนุรักษ์และ     กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ไม่ได้จดทะเบียน

                 จัดการทรัพยากรธรรมชาติที่มุ่งไปสู่การนิรโทษกรรม    ในตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งยังมีประชาชนร้องเรียน
                 อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหากรณีพื้นที่ทับซ้อนและ   ถึงผลกระทบจากธุรกิจโดยเฉพาะกรณีการลงทุนของ

                 การจัดสรรที่ดินให้แก่ประชาชนตามนโยบายของ คทช.     รัฐวิสาหกิจหรือภาคเอกชนไทยในต่างประเทศ รัฐบาล
                 ยังมีความล่าช้า รวมทั้งการจัดท�ากฎหมายล�าดับรอง   จึงควรเปิดให้ภาคส่วนต่าง ๆ มีส่วนร่วมในการจัดท�าแผน
                 ของกฎหมายเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ       NAP ระยะที่ 2 เพื่อให้ข้อมูลและข้อเสนอแนะมาตรการ
                 และสิ่งแวดล้อมที่ยังไม่เสร็จสิ้นและมีข้อห่วงกังวล   ป้องกันและเยียวยาผลกระทบให้ทั่วถึง ตลอดจนผลักดัน

                 จากภาคประชาสังคมว่าจะขาดหลักประกันด้านการ         ให้การตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านเป็นส่วนหนึ่ง
                 มีส่วนร่วมและการค�านึงถึงรูปแบบวิถีชีวิตของประชาชน   ของการก�ากับดูแลหรือเป็นเงื่อนไขสนับสนุนการด�าเนินการ

                 ตามที่ได้รับการรับรองในรัฐธรรมนูญ กสม. จึงมีข้อเสนอแนะ   ขององค์กรธุรกิจ
                 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความส�าคัญกับการมีส่วนร่วม







        001-234 V9 CS6.indd   153                                                                                  3/14/23   8:40 PM
   150   151   152   153   154   155   156   157   158   159   160