Page 17 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ สิทธิชุมชนในการจัดสรรทรัพยากรน้ำโดยใช้แนวทางสันติวิธี : กรณีศึกษาพื้นที่ต้นน้ำของประเทศไทย
P. 17
5
บทที่ 2
การทบทวนวรรณกรรม
สิทธิชุมชนในประเทศไทยแม้จะถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางดังเห็นได้จากผลงานวิจัยทาง
วิชาการต่าง ๆ ที่ต้องการสะท้อนบทบาทของชุมชนต่อสิทธิการคุ้มครองในมิติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ
ชุมชนภายใต้กฎหมายตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ขณะเดียวกันการใช้สิทธิชุมชนใน
บางครั้งอาจน้าไปสู่ความขัดแย้งหรือข้อพิพาทในหลายรูปแบบซึ่งรวมไปถึงความขัดแย้งในการจัดการ
ทรัพยากรน้้าที่ประเทศไทยประสบปัญหาและสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินตลอดระยะเวลา
หลายสิบปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ชุมชนสามารถใช้สิทธิของตนในการจัดการทรัพยากรน้้าได้
อย่างเหมาะสมและเป็นที่ยอมรับของคู่พิพาท การใช้หลักสันติวิธีจึงมีส่วนช่วยในการแก้ไขความ
ขัดแย้งดังกล่าว โดยมีรายละเอียดดังนี้
2.1 แนวคิดเกี่ยวกับสิทธิชุมชน
2.1.1 สิทธิชุมชนตามความในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย: ค้า “สิทธิชุมชน”
(Community Right) เริ่มปรากฏครั้งแรกในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540
(มาตรา 46 และมาตรา 56) โดยได้บัญญัติรับรองสิทธิชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมในการมีส่วนร่วมกับรัฐใน
การอนุรักษ์และฟื้นฟูจารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ศิลปะหรือวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่นและของ
ชาติ และมีส่วนร่วมในการจัดการ บ้ารุงรักษาและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม (ชาติชาย วิริยะเจริญกิจ และสุรัสวดี แสนสุข, 2560) และต่อมาได้ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับ
ดังกล่าวแล้วได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ซึ่งได้บัญญัติสิทธิ
ชุมชนไว้ในหมวด 3 ว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพของชาวไทย ส่วนที่ 12 ว่าด้วยสิทธิชุมชน มาตรา 66
และมาตรา 67 โดยให้ความส้าคัญกับชุมชนท้องถิ่นในการมีส่วนร่วมต่อการจัดการทรัพยากร อนุรักษ์
บ้ารุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ สิทธิของ
บุคคลที่จะมีส่วนร่วมกับรัฐและชุมชนในการคุ้มครอง รักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การด้าเนินโครงการ
ต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงจะด้าเนินการไม่ได้ นอกจากจะมีการศึกษาและ
ผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนที่จะมีการด้าเนินการ (ส้านักงานเลขาธิการ
สภาผู้แทนราษฎร, 2555) ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญฯ ฉบับพุทธศักราช 2550 ได้ให้ความส้าคัญ