Page 100 - รายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ถึง 25 พฤษภาคม 2564)
P. 100
พุทธศักราช ๒๕๖๐ แต่รัฐธรรมนูญก็ได้บัญญัติให้รัฐต้อง ๓. คณะรัฐมนตรีควรจัดให้มีกฎหมายเฉพาะว่าด้วย
ดูแลและส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี อันสอดคล้อง การควบคุมสารเคมีทางการเกษตร โดยพิจารณาประกอบ
กับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม ร่างพระราชบัญญัติความปลอดภัยจากการใช้สารป้องกัน
และวัฒนธรรม ที่ก�าหนดให้รัฐภาคีแห่งกติกานี้รับรอง และก�าจัดศัตรูพืช พ.ศ. …. ซึ่งจัดท�าโดยคณะท�างาน
สิทธิของทุกคนที่จะมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตตาม ขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ กลุ่มมติเกษตร
มาตรฐานสูงสุดเท่าที่เป็นได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการคุ้มครอง และอาหารปลอดภัย ภายใต้คณะอนุกรรมการขับเคลื่อน
ผู้บริโภคและเพื่อประโยชน์สาธารณะ และเพื่อให้การแก้ไข และติดตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ร่วมกับเครือข่าย
ปัญหาการใช้พาราควอตในภาคการเกษตรในระยะยาว ด้านสาธารณสุขและองค์กรภาคประชาสังคม
อันจะน�าไปสู่ความยั่งยืนในทุกมิติ จึงให้มีข้อเสนอแนะ
รายงานผลการดำาเนินงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ ๓
มาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครอง ผลส�าเร็จ/ความก้าวหน้าในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
สิทธิมนุษยชน รวมตลอดทั้งการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย ๑. ส�านักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แจ้งว่า รองนายก
กฎ ระเบียบ หรือค�าสั่งใด ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับหลัก รัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) สั่งและปฏิบัติราชการ
สิทธิมนุษยชนต่อคณะรัฐมนตรี กระทรวงเกษตรและ แทนนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข
สหกรณ์ และคณะกรรมการวัตถุอันตราย ตามรัฐธรรมนูญ เป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวง
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๔๗ เกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงาน
สำ�นักง�นคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติ
(๓) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๐ ข้อเสนอแนะดังกล่าว โดยให้กระทรวงสาธารณสุข
มาตรา ๒๖ (๓) และมาตรา ๔๒ ดังนี้ สรุปผลการพิจารณาผลการด�าเนินการดังกล่าว ในภาพรวม
แล้วส่งให้ส�านักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อน�าเสนอ
ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและ คณะรัฐมนตรีต่อไป
คุ้มครองสิทธิมนุษยชนและการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย
กฎ ระเบียบ หรือค�าสั่งใด ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับ ๒. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการ
หลักสิทธิมนุษยชน เกษตร และกระทรวงอุตสาหกรรมแจ้งผลด�าเนินการ
๑. คณะกรรมการวัตถุอันตรายซึ่งมีอ�านาจหน้าที่ สอดคล้องกันว่า คณะกรรมการวัตถุอันตรายในการประชุม
ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕ ควรก�าหนด เมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑ มีมติให้จ�ากัดการใช้
ให้พาราควอตเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ ๔ ตามพระราช วัตถุอันตรายพาราควอตคลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต
บัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๑๘ โดยห้าม แล้ว โดยให้ความเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงเกษตร
มิให้มีการผลิต การน�าเข้า การส่งออก หรือการมีไว้ใน และสหกรณ์เพื่อจ�ากัดการใช้พาราควอต คลอร์ไพริฟอส
ครอบครอง และไกลโฟเซต ซึ่งร่างประกาศฯ ได้ก�าหนดให้เกษตรกร
ผู้ใช้สารจะต้องผ่านการอบรม ก�าหนดหน้าที่ของผู้ขาย
๒. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ควรแก้ไขปัญหา ก�าหนดชนิดพืชและพื้นที่ใช้สาร ให้ผู้ผลิตผู้น�าเข้า ผู้ขาย
การใช้สารเคมีทางการเกษตรทุกชนิดในระยะยาว ต้องแจ้งข้อมูลให้ทราบ เป็นต้น มอบหมายให้กรมวิชาการ
โดยการจัดท�ามาตรการและกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน เกษตรเร่งด�าเนินการจัดท�าแผนปฏิบัติการเร่งรัดขยาย
ในการควบคุมการใช้หรือการเลิกใช้สารเคมีในภาค การท�าการเกษตรดีที่เหมาะ (GAP) หรือเกษตรอินทรีย์
การเกษตรทุกชนิดที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ทาง (Organic Farming) ให้ครอบคลุมทั้งประเทศให้ได้ภายใน
วิทยาศาสตร์บ่งบอกถึงอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน ๒ ปี และร่วมกับหน่วยงานภาควิชาการหรือภาคเอกชน
และสิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกันจะต้องพัฒนาทางเลือก ศึกษาวิจัยหานวัตกรรมในการก�าจัดวัชพืชและศัตรูพืช
ด้านสารชีวภาพและเทคโนโลยีชีวภาพเพื่อการเกษตร และแนะน�าเกษตรกรให้ใช้สารชีวภัณฑ์ในการก�าจัด
ที่ยั่งยืนส�าหรับเกษตรกรอย่างเป็นระบบและจริงจัง ศัตรูพืชเพื่อเป็นการลดการใช้สารเคมีให้ได้ภายใน ๒ ปี
เช่นกัน และให้ด�าเนินการเผยแพร่ ให้ความรู้ ความเข้าใจ
ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้สารการใช้เครื่องพ่นสาร
98