Page 158 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
P. 158
รายงานผลการปฎิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 157
ประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
ให้แก่ผู้ปฏิบัติ และผู้ที่สนใจ ซึ่งสามารถด�าเนินการจัดท�าคู่มือ 1.2 การประเมินคุณภาพความพึงพอใจของประชาชนที่มี
แล้วเสร็จทั้ง 3 กรอบความร่วมมือเป็นไปตามเกณฑ์การประเมิน ต่อผลประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้บริการและที่มีต่อกระบวน
ในค่าเป้าหมายระดับที่ 5 แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังคงจ�าเป็น งานให้บริการ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ให้
ที่ต้องมีการพัฒนาต่อยอดการจัดท�าคู่มือในรูปแบบของคู่มือ ความส�าคัญกับการประเมินความพึงพอใจของผู้รับบริการและ
การปฏิบัติงาน (Work Manual) ที่มีรายละเอียดขั้นตอน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อน�าผลการประเมินมาปรับปรุงคุณภาพ
การด�าเนินงานในแต่ละกระบวนงาน เพื่อให้การด�าเนินงานของ การให้บริการ และการด�าเนินงานตามภารกิจ โดยส�านักงาน
เจ้าหน้าที่ให้เป็นระบบ และมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้แบ่งกลุ่มเป้าหมาย
ในการประเมินความพึงพอใจออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ความพึงพอใจ
3) ภารกิจด้านการเฝ้าระวังสถานการณ์สิทธิมนุษยชน ของผู้รับบริการที่ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อส�านักงานคณะกรรมการ
ถือเป็นหน้าที่และอ�านาจส�าคัญประการหนึ่งของคณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งก�าหนดให้มีการประเมินในมิติต่าง ๆ
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งได้จัดท�ารายงานผลการประเมิน ดังนี้ 1) กระบวนการ ขั้นตอนการให้บริการ 2) ด้านเจ้าหน้าที่
สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยประจ�าปี ผู้ให้บริการ และ 3) ด้านการให้บริการ ก�าหนดค่าเป้าหมาย
พ.ศ. 2562 (เดือนมกราคม-ธันวาคม 2562) จนแล้วเสร็จ ระดับที่ 5 ร้อยละ 90 ผลการประเมินความพึงพอใจในภาพรวม
และเสนอต่อรัฐสภาและคณะรัฐมนตรี พร้อมเผยแพร่ คิดเป็นร้อยละ 94.40 จากการประเมินผลดังกล่าวมีประเด็นที่
ต่อประชาชนผู้ที่สนใจ ภายใต้ระยะเวลาที่ก�าหนด รวมถึงมีการ ส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะต้องพัฒนา
ติดตามและประมวลความเห็นและข้อเสนอแนะของสมาชิก เพื่อปรับปรุงคุณภาพการให้บริการเพื่อประโยชน์สูงสุดของ
วุฒิสภา สมาชิกผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรี ตลอดจนหน่วยงาน ผู้รับบริการ ตลอดจนประชาชน อาทิ การจัดท�าคู่มือให้ความรู้
ที่เกี่ยวข้องที่มาก�าหนดเป็นเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติ แก่ประชาชนเกี่ยวกับการขอรับบริการด้านต่าง ๆ การจัดท�า
ราชการ ซึ่งผลการด�าเนินงานเป็นไปตามเกณฑ์การประเมิน แอปพลิเคชันของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ บทที่
4
ในค่าเป้าหมายระดับที่ 5 นอกจากนี้ ยังได้ยกระดับการประเมินผล เพื่ออ�านวยความสะดวก ลดขั้นตอน สามารถเข้าถึงบริการ
การปฏิบัติราชการดังกล่าวในเชิงคุณภาพโดยเพิ่มกระบวนการ ได้อย่างรวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการ
สร้างการมีส่วนร่วมของนักวิชาการ ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ขอรับบริการด้านการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมถึง
ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการให้ข้อมูลและความเห็น การปรับรูปแบบการประเมินความพึงพอใจ ซึ่งสอดคล้องกับ
เกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบ แผนการด�าเนินงานของส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
การจัดท�ารายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน แห่งชาติที่จะมีการพัฒนารูปแบบ และเครื่องมือในการจัดเก็บ
ของประเทศไทย ประจ�าปี 2563 ซึ่งในการด�าเนินงาน ข้อมูลการประเมินความพึงพอใจของผู้รับบริการผ่านช่องทาง
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยส�านักงาน ระบบการให้บริการสายด่วน 1377 เพื่อเป็นการอ�านวย
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้จัดประชุมเพื่อรับฟัง ความสะดวก และเพิ่มจ�านวนกลุ่มเป้าหมายในการประเมินให้
ความคิดเห็นและข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ในจังหวัดชายแดน ครอบคลุมถึงผู้รับบริการในช่องทางการให้บริการของส�านักงาน
ภาคใต้ ปี 2563 เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2563 ณ ศูนย์ศึกษา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะท�าให้ได้
และประสานงานด้านสิทธิมนุษยชนจังหวัดชายแดน รับข้อมูลเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ พัฒนาปรับปรุงการให้บริการ
ภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน กลุ่มเป้าหมายในการประเมินอีกหนึ่งกลุ่ม
โดยผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้แทนจากองค์ภาคเอกชน คือ ความพึงพอใจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ภาคประชาชน จ�านวน 10 องค์กร ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ที่มีต่อการด�าเนินงานด้านส่งเสริม และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
จ�านวน 4 หน่วยงาน ผลการด�าเนินงานเป็นไปตามเกณฑ์ รวมถึงการเฝ้าระวังสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของส�านักงาน
การประเมินในค่าเป้าหมายระดับที่ 5 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ก�าหนดค่าเป้าหมาย
ระดับที่ 5 ร้อยละ 80 ผลการประเมินความพึงพอใจในภาพรวม
อยู่ในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 80 โดยมีประเด็นการด�าเนินงาน