Page 162 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
P. 162
รายงานผลการปฎิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 161
ประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
จากการด�าเนินงานตามหน้าที่และอ�านาจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 พบว่ามี
ปัญหาอุปสรรค และข้อจ�ากัดบางประการ และเห็นควรมีข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี รัฐสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
5.1 ด้านบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตามรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติ
5.1.1 หน้าที่และอ�านาจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในการชี้แจงและรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง
โดยไม่ชักช้าในกรณีที่มีการรายงานสถานการณ์เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยโดยไม่ถูกต้องหรือไม่เป็น
1
ธรรม อันไม่สอดคล้องกับหน้าที่และอ�านาจของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตามหลักการปารีส
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 247 (4) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา 26 (4) และมาตรา 44 บัญญัติให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ชี้แจงและรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้องโดยไม่ชักช้าในกรณีที่มีการรายงานสถานการณ์เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยโดย
ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป ซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เคยแสดง
ความกังวลต่อคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญในขณะนั้นว่า บทบัญญัติดังกล่าวอาจไม่สอดคล้องกับหลักความเป็นอิสระในการ
ปฏิบัติหน้าที่ของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตามหลักการปารีส
ต่อมา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ด�าเนินการเข้ารับการประเมินเพื่อทบทวนสถานะ (re-accreditation) กับ
2
คณะอนุกรรมาธิการประเมินสถานะ (Sub-Committee on Accreditation: SCA) ของกรอบความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก
ว่าด้วยสถาบันสิทธิมนุษยชน (Global Alliance of National Human Rights Institutions: GANHRI) ซึ่งได้รับข้อสังเกตจาก
เครือข่ายองค์กรทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศว่าหน้าที่และอ�านาจดังกล่าวไม่สอดคล้องกับหลักปารีสที่อาจมีผลกระทบต่อ
ความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งที่อาจเกิดขึ้นจริงหรือที่เป็นการรับรู้ (actual or perceived impact on independence) บทที่
ซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้มีการประสานความร่วมมือในระดับต่าง ๆ ทั้งกับฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร 5
เพื่อยกเลิกบทบัญญัติดังกล่าว
รัฐสภา คณะรัฐมนตรีหรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ควรพิจารณาให้การสนับสนุนการแก้ไขเพิ่ม
เติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 โดยให้ยกเลิกบทบัญญัติในมาตรา 247
(4) ทั้งนี้อาจพิจารณาให้การแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ข้อเสนอแนะ ฉบับนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการด�าเนินการหรือแยกพิจารณาแก้ไขเฉพาะมาตรานี้ รวมถึงการพิจารณาแก้ไข
เพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560
โดยยกเลิกบทบัญญัติในมาตรา 26 (4) เพื่อให้สอดคล้องกัน
1 ชื่ออย่างเป็นทางการคือ หลักการเกี่ยวกับสถานะของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (Principles Relating to National
Human Rights Institutions)
2 เป็นคณะอนุกรรมการภายใต้กรอบความร่วมมือเครือข่ายพันธมิตรระดับโลกว่าด้วยสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (Global
Alliance of National Human Rights Institutions: GANHRI) ซึ่งได้พิจารณาปรับลดสถานะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติของประเทศไทยจากสถานะ A เป็น B เมื่อเดือนมกราคม 2559