Page 163 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
P. 163
162
5.1.2 ข้อจ�ากัดด้านกฎหมาย ในกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเห็นสมควรด�าเนินการไกล่เกลี่ย
ประนีประนอมข้อพิพาทในด้านสิทธิมนุษยชน
เดิมพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้บัญญัติให้ระหว่างการตรวจสอบการละเมิด
สิทธิมนุษยชน คณะกรรมการสามารถไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของคู่กรณีเพื่อให้ปัญหาตามค�าร้องเรียนสามารถยุติลงได้ ซึ่งเป็นการก�าหนด
ที่สอดคล้องกับหลักการสากลที่ได้ก�าหนดหลักการเพิ่มเติมว่าด้วยสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่มีอ�านาจกึ่งตุลาการในการรับและ
พิจารณาเรื่องร้องเรียนประการหนึ่ง คือ แสวงหาแนวทางยุติปัญหาอย่างฉันมิตรผ่านกระบวนการไกล่เกลี่ย
แต่ปัจจุบันพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 มิได้บัญญัติหน้าที่
และอ�านาจในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของคณะกรรมการไว้ ท�าให้คณะกรรมการไม่สามารถไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของคู่กรณีได้ อย่างไร
ก็ตาม คณะกรรมการได้พยายามผลักดันให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติ พ.ศ. 2560 เพื่อให้มีการบัญญัติหน้าที่และอ�านาจในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของคณะกรรมการไว้ในพระราชบัญญัติประกอบ
รัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 ให้ชัดเจน โดยได้เสนอความเห็นเกี่ยวกับหน้าที่และอ�านาจใน
การไกล่เกลี่ยของคณะกรรมการต่อประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ วุฒิสภา เพื่อช่วยพิจารณาผลักดัน
ให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 ในประเด็นดังกล่าว ทั้งนี้
ตามหนังสือคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่ สม 0008/77 ลงวันที่ 17 กันยายน 2563 รวมทั้งคณะกรรมการได้พิจารณา
เสนอร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ..... ต่อคณะรัฐมนตรี
ซึ่งได้เสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมประเด็นหนึ่ง คือการบัญญัติหน้าที่และอ�านาจของคณะกรรมการในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทไว้ใน
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 เพื่อให้การด�าเนินการตามหน้าที่
และอ�านาจคณะกรรมการในการตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนทุกกรณีโดยไม่ล่าช้า
ตามมาตรา 247 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และมาตรา 26 (1) แห่งพระราชบัญญัติประกอบ
รัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับหลักสากล
ทั้งนี้ ตามหนังสือคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่ สม 0008/14 ลงวันที่ 28 มกราคม 2564
รัฐสภาและคณะรัฐมนตรีควรเร่งรัดการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่คณะกรรมการได้เสนอเพื่อให้
คณะกรรมการมีหน้าที่และอ�านาจในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท อันจะท�าให้คณะกรรมการสามารถท�าหน้าที่
ข้อเสนอแนะ ในการคุ้มครองผู้ได้รับความเสียหายจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ล่าช้าและ
สอดคล้องกับหลักสากลต่อไป