Page 51 - รายงานผลการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะ มาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน (ฉบับสมบูรณ์)
P. 51

บทที่ 2
                                                                    แนวคิดในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม


                                                                  78
               ที่แตกต่างกันจะสร้างแรงจูงใจในการใช้ทรัพยากรที่ต่างกัน   ดังนั้น รัฐจึงสามารถสร้างแรงจูงใจเพื่อการ
               ตอบสนองวัตถุประสงค์ที่ต่างกันในทรัพยากรที่มีความจ าเป็นแตกต่างกัน ผ่านการสร้างกลไกในระบบ
               กรรมสิทธิ์ ดังนี้


                       (1) ระบบกรรมสิทธิ์แบบไม่มีสิทธิ (non-property) หรือกรรมสิทธิ์เปิดกว้าง (open-access
                          regimes)


                       เป็นระบบกรรมสิทธิ์ที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ไม่มีการควบคุมดูแล ส่วนใหญ่เพราะโดยธรรมชาติของ
               ทรัพย์สินนั้นไม่อาจถือครองหรือควบคุมการใช้ได้ เช่น อากาศ เป็นต้น หากก าหนดให้ทรัพย์สินหรือทรัพยากร

               มีระบบกรรมสิทธิ์แบบเปิดกว้างจะท าให้มีการเข้าถึงและการใช้อย่างไม่จ ากัด น ามาซึ่งความเสื่อมโทรม
               ดังทฤษฎีโศกนาฏกรรมของการใช้ทรัพยากรร่วม (tragedy of the commons) ซึ่งเสนอว่าการจัดการ

               ทรัพยากรร่วมนี้ต้องบริการจัดการโดยกลไกรัฐหรือตลาดเท่านั้น ปฏิเสธการให้ผู้ใช้ทรัพยากรจัดการกันเอง
                                                                                                        79
               อย่างไรก็ตาม ในที่นี้ Garrett Hardin (1968) ได้ใช้ค าว่าทรัพยากรร่วม (commons) ในฐานะทรัพยากรไม่มี
               เจ้าของ (open-access) ซึ่งแตกต่างกับระบบกรรมสิทธิ์ร่วม (common-property regimes) ที่จะได้กล่าวถึง

               ต่อไป

                       (2) ระบบกรรมสิทธิ์ของรัฐ (state-property regimes)

                       เป็นระบบกรรมสิทธิ์ที่รัฐเป็นเจ้าของและควบคุมการใช้ทรัพยากรนั้น โดยอาจจะอยู่ในความดูแลของ

               หน่วยงานรัฐหรือให้เอกชนเช่าตามระยะเวลาที่ก าหนด ส่วนใหญ่จะใช้กับทรัพย์สินหรือทรัพยากรที่เกี่ยวข้อง

               กับประโยชน์สาธารณะที่ต้องก าหนดเงื่อนไขการใช้ เช่น เหมืองแร่ โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เป็นต้น

                       (3) ระบบกรรมสิทธิ์ส่วนบุคคล (private-property regimes)

                       เป็นระบบกรรมสิทธิ์ที่เอกชนเป็นเจ้าของ ซึ่งส่วนใหญ่รัฐจะให้การรับรองและคุ้มครองเพราะบุคคล

               มีแนวโน้มที่จะรักษาทรัพย์สินของตนเองและใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น หากเอกชนมีกรรมสิทธิ์ในบ้านหลัง

               หนึ่ง เอกชนอาจรับผลประโยชน์จากบ้านโดยการอยู่อาศัยหรือปล่อยเช่า เอกชนย่อมจะต้องดูแลรักษาบ้าน
               ให้อยู่ในสภาพดี  ในทางตรงกันข้าม หากบ้านหลังนั้นใช้ระบบกรรมสิทธิ์แบบเปิดกว้าง ทุกคนสามารถเข้ามาใช้

               และหาประโยชน์จากบ้าน จะไม่มีใครยอมเสียค่าบ ารุงรักษาบ้าน เป็นต้น













               78    ปัทมาวดี โพชนุกูล ซูซูกิ. (2555). เอกสารประกอบค าบรรยายวิชาเศรษฐศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม: กรรมสิทธิ์
                   ในทรัพย์สินกับปัญหาสิ่งแวดล้อม.
               79   ธรรมนิตย์ สุมันตกุล. (2556). ความคิดในทางกฎหมายและเศรษฐศาสตร์ ชุมชนจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติร่วมกันได้อย่างไร.
                   ส านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา.



               สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย                                                      2-33
   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56