Page 15 - ข้อเสนอแนะการเข้าถึงความยุติธรรมของผู้หญิงมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้
P. 15
๑.๒ เรื่องเล่าใต้ฮิญาบ: ประสบการณ์แสนขมขื่นของผู้หญิงมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้
ผู้หญิงมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้จ�านวนมากมายต้องเผชิญกับปัญหานานาประการโดยที่ไม่มีมาตรการ
และแนวทางในการคุ้มครอง ช่วยเหลือ เยียวยา ที่เป็นรูปธรรม ดังประสบการณ์สุดรันทดจากหญิงมุสลิมในพื้นที่
๔
บางคนที่กล้าหาญก้าวออกมาเล่าเรื่องของเธอให้สังคมได้รับรู้ ต่อไปนี้
๑) นาเดีย : กรณีกูกข่มขืน บังคับแต่งงาน บังคับเสพยาเสพติด และท�าร้ายร่างกาย
“หนูเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัวข้าราชการ ตอนนั้นหนูอายุ ๒๔ ก�าลังเรียนปริญญาโท และท�างานเป็น
เลขานุการให้สามีของญาติ ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่ในหน่วยงานระดับท้องถิ่นแห่งหนึ่ง เขาอายุเกือบ ๖๐ วันหนึ่งหนูถูกเขามอมยา
และข่มขืน จากนั้นเขาก็บังคับหนูข่มขู่หนูว่าไม่ให้เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร เขาอ้างว่าจะเป็นเรื่องอับอายส�าหรับหนูและเสียหาย
ส�าหรับเขา...
สุดท้ายเขาบังคับให้หนูแต่งงานกับเขา การแต่งงานของหนูกับเขาเกิดขึ้นที่ส�านักงานคณะกรรมการกลางอิสลาม
ประจ�าจังหวัดแห่งหนึ่งในเวลา ๔ ทุ่ม มีเพียงรองประธานและคนสนิทของเขา โดยไม่มีพ่อแม่หรือญาติของหนูเป็นพยานรับรู้
เลย หนูไม่รู้ด้วยซ�้าว่าต้องตกเป็นภรรยาคนที่สี่ของเขา แม้กระทั่งใบนิกะห์หรือใบทะเบียนสมรสเขาก็ไม่ได้ให้หนูเห็นเลย
เขาเก็บไว้หมด...
เขาเสพยาเสพติดและเสพมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยาไอซ์ โคเคน และกัญชา ทุกครั้งที่ใช้เขาจะมีอารมณ์รุนแรงและมักใช้
ก�าลังกับหนู ทั้งทุบ ต่อยทุกวัน บางครั้งมดลูกบวม ถูกโกนคิ้ว โดยที่เขาให้เหตุผลไม่อยากให้หนูไปเจอกับสังคมภายนอกหรือ
เจอใคร เขายังเคยลากหนูออกจากห้องมาทางเดินของโรงแรมโดยที่หนูไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย จนถึงการบังคับให้เสพยาไอซ์
จนติดยาเสพติด มีอาการทางประสาท ร่างกายทรุดโทรม เมื่อพ่อแม่ทราบเรื่องจึงให้หนูลาออกจากงานกลับมารักษาตัวที่บ้าน
และพยายามด�าเนินการขอหย่าขาดจากสามี แต่เขาพยายามขอคืนดี ไม่ยอมหย่า ถ้าอยากหย่าให้เดินเรื่องเอง...
ต้องใช้เวลานานกว่าจะฟื้นร่างกายจากการบาดเจ็บจากการถูกท�าร้ายร่างกาย รวมถึงบาดแผลทางจิตใจจากการถูก
คุกคามต่อเนื่องทุกวัน ในที่สุดหนูตัดสินใจก้าวออกมาจากจุดนั้นเพื่อเข้าสู่กระบวนการหย่าที่คณะกรรมการกลางอิสลาม
ประจ�าจังหวัด หนูมาขอค�าแนะน�าจากเจ้าหน้าที่ หนูอายมากที่หนูต้องเจอกับเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้ชายหนูต้องเล่าเรื่องราวของ
หนูให้เขาฟัง ซึ่งบางเรื่องมันน่าอายเป็นเรื่องไม่เหมาะสม มันเหมือนเป็นการประจานตัวเอง หนูถูกเจ้าหน้าที่คณะกรรมการ
กลางพูดจาดูหมิ่นเหยียดหยาม ต�าหนิหนูว่า ที่มาขอหย่าเพราะท�าตัวไม่ดี สามีถึงได้ทุบตี และเป็นเรื่องภายในครอบครัว
ที่ผู้หญิงต้องมีความอดทนและให้เกียรติสามี...
การหย่าเป็นไปอย่างยากล�าบาก เนื่องจากจะต้องท�าการหย่าในพื้นที่ที่ได้ท�าบันทึกการสมรสเท่านั้นและต้องมีเอกสาร
บันทึกการสมรสมาแสดง แต่เอกสารทั้งหมดอยู่กับเขา หนูจึงต้องไปหาพยานผู้ชายมาสองคนเพื่อประกอบการแสดงความ
จ�านงขอหย่า ต้องรับภาระในการออกค่าใช้จ่ายเอง หนูรู้สึกหวาดกลัวและอับอายเวลาที่ต้องบอกเล่าเรื่องความรุนแรงใน
ครอบครัวและความรุนแรงทางเพศที่ถูกสามีกระท�า แล้วห้องที่เจ้าหน้าที่ให้พบก็ไม่ใช่ห้องเฉพาะ มีหลายคนที่มาเรียงแถวเพื่อ
ที่จะเข้าพบ เรื่องราวของเราต้องถูกคนที่อยู่ข้างๆ รับฟังไปด้วย และเราเองก็ได้รับฟังเรื่องราวของคนอื่น เราเห็นว่า ไม่มีการ
จะปกป้องสิทธิของตนเอง และเกิดค�าถามว่า การปกป้องสิทธิของผู้หญิงอยู่ตรงไหน...
การด�าเนินเรื่องการหย่าใช้เวลานานพอสมควร โดยต้องเข้าพบคณะกรรมการอิสลามถึง ๓ ครั้ง ครั้งที่ ๑ ไปพบเพื่อ
สอบถามถึงวิธีการกรณีที่ฝ่ายชายไม่ยินยอมหย่า และให้เหตุผลที่สมเหตุสมผลว่าจะด�าเนินการหย่าเพื่ออะไร ครั้งที่ ๒ ยื่นเรื่อง
ให้คณะกรรมการกลางอิสลามเพื่อท�าหนังสือแจ้งฝ่ายชายให้มาไกล่เกลี่ย แต่เขาไม่ยินยอมไกล่เกลี่ย จึงต้องมีครั้งที่ ๓ เพื่อท�า
พิธีหย่าโดยมีคนของฝ่ายชายรับรู้ฝ่ายเดียว หนูไม่กล้าด�าเนินคดีเทางอาญาตามกฎหมายไทย เพราะถูกข่มขู่ถึงความปลอดภัย
ของตัวเองและครอบครัว และการด�าเนินการนีก๊ะมีแต่คนของฝ่ายชายรับรู้ ไม่มีคนของฝ่ายหนูรับรู้เลย ในที่สุดหนู่ขอหย่าขาด
จากเขาได้ด้วยความช่วยเหลือจากพ่อแม่ แต่จนถึงปัจจุบันอดีตสามีก็ยังคงพยายามคุกคามเพื่อบังคับให้เธอกลับไปใช้ชีวิตร่วม
กับเขาอีก”
๔ น�าเสนอในการประชุมผู้หญิง เรื่อง “การเข้าถึงความยุติธรรมของผู้หญิงมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้” เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ที่โรงแรมซีเอส จังหวัดปัตตานี.
4 ข้อเสนอแนะ การเข้าถึงความยุติธรรมของผู้หญิงมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้