Page 622 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 622

598


                         ในกรณีเช่นนี้มีข้อเสนอแนะในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายสองแนวทางดังนี้


                         แนวทางแรก   แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ให้ครอบคลุม การคุกคามทางเพศใน

                  ลักษณะ สภาพแวดล้อมของการท างานอันเป็นการคุกคาม (Hostile working environment)    รวมทั้ง
                  เพิ่มเติมการคุกคามด้วยเหตุอื่นๆนอกจากที่เกี่ยวกับเพศ ในมิติการจ้างแรงงาน


                         แนวทางที่สอง บัญญัติกฎหมายใหม่เกี่ยวกับการห้ามเลือกปฏิบัติอันมีลักษณะเป็นกฎหมายกลาง
                  ครอบคลุมเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติต่างๆ ในมิติต่างๆ  ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า การคุกคามไม่จ ากัดเฉพาะในมิติการ

                  จ้างแรงงานเท่านั้น ดังนั้น การแก้ไขกฎหมายในส่วนกฎหมายคุ้มครองแรงงานจึงยังไม่ครอบคลุมการ

                  คุกคามที่เกี่ยวข้องกับเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติอื่นๆและในมิติอื่นๆ เช่น การคุกคามในที่ท างานด้วยเหตุแห่ง
                  เชื้อชาติ ศาสนา หรือ การคุกคามในที่สาธารณะด้วยเหตุแห่งเชื้อชาติ ศาสนา  จึงเสนอให้มีการบัญญัติ

                  กฎหมายกลางเกี่ยวกับการห้ามเลือกปฏิบัติ ซึ่งครอบคลุมมิติและเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติที่กว้างกว่า

                  กฎหมายแรงงานที่จ ากัดเฉพาะเหตุด้านเพศและในมิติการจ้างแรงงานเท่านั้น  ทั้งนี้โดยพิจารณาตัวแบบ
                  จากกฎหมายต่างประเทศเช่นออสเตรเลีย แคนาดา เป็นต้น


                         (5) กรณีสิทธิปฎิเสธการเกณฑ์ทหารด้วยเหตุมโนส านึก


                         ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า  มโนส านึก (Conscience)  หรือ มโนธรรม มิได้จ ากัดเฉพาะ “ศาสนา” ใด
                  ศาสนาหนึ่ง  เนื่องจาก มโนธรรม คือการพิจารณาความถูกผิดของบุคคลนั้นๆ ซึ่งจัดอยู่ใน “ความเชื่อ”

                  ตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ  ดังนั้น หากบุคคลมีความเชื่อตามมโนธรรมของตนที่ขัดแย้งกับ

                  การเป็นทหารซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้ก าลังและการต่อสู้   ความเชื่อเช่นนี้ก็ควรได้รับการคุ้มครองตาม
                  กฎหมายสิทธิมนุษยชนของไทย   ส าหรับประเด็นเกี่ยวกับความเสมอภาคและการเลือกปฏิบัติในมิติ “สิทธิ

                  ปฎิเสธการเกณฑ์ทหารด้วยเหตุมโนธรรม” นี้ ก็คือ


                          1. มโนธรรมหรือความเชื่อ ควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันกับความเชื่อตามศาสนา  หากมี
                  ข้อยกเว้นการปฎิเสธการเกณฑ์ทหารด้วยเหตุศาสนา ก็ควรมีข้อยกเว้นส าหรับ มโนส านึก (Conscience)

                  ด้วย


                           2. นอกจากการเกณฑ์ทหารแล้ว ควรมีทางเลือกอื่นในการ “รับใช้ชาติ” (National Alternative
                  Service)    ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ก าลังและการต่อสู้ เพื่อให้สอดคล้องกับผู้มีมโนธรรม ความเชื่อ ที่

                  แตกต่างหลากหลาย อันเป็นการเคารพสิทธิในความเชื่อเหล่านั้น


                           3.  หากมีการก าหนด ทางเลือกอื่นในการ “รับใช้ชาติ” (National Alternative Service)  ก็
                  ควรต้องไม่มีลักษณะการเลือกปฏิบัติ เช่น ระยะเวลาในการรับใช้ชาติรูปแบบอื่น จะต้องไม่มากกว่า การรับ

                  ใช้ชาติในรูปแบบของการเกณฑ์ทหาร ดังเช่นคดีที่ตัดสินตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศที่ศึกษา

                  ในงานวิจัยนี้
   617   618   619   620   621   622   623   624   625   626   627