Page 607 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 607
583
5
คุ้มครองเป็นการเฉพาะ เนื่องจากไม่มีกฎหมายกลางที่ครอบคลุมการเลือกปฏิบัติซึ่งจะมาปรับใช้ส าหรับมิติ
เช่นนี้ นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างกรณีการให้บริการศึกษาภาคเอกชน หรือการจ้างแรงงาน ที่มีผู้ให้ข้อมูลจาก
การสัมภาษณ์เห็นว่า กฎระเบียบของสถานศึกษาภาคเอกชนก าหนดให้นักเรียนไปปฏิบัติธรรมของศาสนา
ใดศาสนาหนึ่ง หรือ นโยบายของบริษัทก าหนดให้ พนักงานไปปฏิบัติธรรมของศาสนาใดศาสนาหนึ่ง ดังนี้
แม้ว่ามีบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญห้ามการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุศาสนา แต่ก็ไม่อาจยกบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
ขึ้นยันกับภาคเอกชนได้
-เหตุแห่งการเลือกปฏิบัติบางกรณี แม้อยู่ในความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ แต่อาจมีปัญหากรณี
การเลือกปฏิบัติที่เกิดขึ้นในภาคเอกชน เช่น สภาพร่างกาย ตัวอย่างเช่น การที่ภาคเอกชนน าเอาคุณสมบัติ
ด้านสภาพร่างกายมาเป็นเงื่อนไขการรับบุคคลเข้าท างาน และสภาพทางกายนั้นมิได้เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติ
อันจ าเป็นของงานนั้นๆ (เทียบเคียงกับกรณีค าร้องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเรื่องปานบน
ใบหน้ากับงานด้านดนตรี ,รายงานผลพิจารณาที่ 194/2557) หรือในกรณีเหตุเกี่ยวกับ สุขภาพ เช่น
การน าเอาเหตุความเจ็บป่วยของบุคคลมาเป็นเงื่อนไขในการจ้างแรงงานในภาคเอกชน ทั้งนี้เนื่องจาก
หลักการห้ามเลือกปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญไม่อาจยกขึ้นอ้างยันระหว่างเอกชนกับเอกชนด้วยกัน แต่ยังไม่มี
กฎหมายเฉพาะที่ครอบคลุมกรณีลักษณะนี้ที่เกิดในภาคเอกชน
-การปฏิบัติที่แตกต่างด้วยเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติในมิติการจ้างแรงงานซึ่งเกิดขึ้นในช่วงก่อน
ความสัมพันธ์ในฐานะนายจ้าง ลูกจ้าง เช่น การโฆษณาประกาศรับสมัครงานที่มีลักษณะกีดกันบุคคลด้วย
เหตุแห่งการเลือกปฏิบัตินอกจากเพศ เช่น เชื้อชาติ ศาสนา ฯลฯ การปฏิบัติที่แตกต่างดังกล่าวในบริบท
การบริหารทรัพยากรมนุษย์นั้น นอกจากเกี่ยวข้องกับการกระท าของนายจ้างแล้วยังรวมถึงการกระท าของผู้
ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเช่น ธุรกิจจัดหางาน เป็นต้น หรือในกรณีข้อมูลจากการรับฟังความคิดเห็น ผู้ให้
ข้อมูลเห็นว่า “การที่ใบสมัครงานก าหนดให้ต้องระบุ ศาสนา เชื้อชาติ สัญชาติ จะส่งผลให้เกิดการ
คัดเลือกโดยมีอคติเกี่ยวกับศาสนา เชื้อชาติ แทนที่จะค านึงถึงความสามารถที่เกี่ยวกับงานนั้น” กรณีนี้
กฎหมายไทยมิได้ก าหนดห้ามการถามข้อมูลอันเกี่ยวข้องกับเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติในขั้นตอนการรับสมัคร
หรือการคัดเลือกพนักงาน ซึ่งแตกต่างกับกฎหมายบางประเทศที่ก าหนดควบคุมการเลือกปฏิบัติในขั้นตอน
นี้ จะเห็นได้ว่า กรณีเหล่านี้ยังไม่มีกฎหมายครอบคลุมถึง
-กรณีการสื่อสารที่ท าให้เกิดความเกลียดชังด้วยเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติต่างๆ (Hate Speech)
ดังเช่นกรณีข้อเท็จจริงจากผู้ให้สัมภาษณ์ สนทนากลุ่ม เช่น มัคคุเทศก์ชาวไทย ผู้ให้ข้อมูล เห็นว่า “ รู้สึกไม่
ดีต่อมัคคุเทศก์ชาวจีน มาแย่งงาน หรือ ผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อยเห็นว่า ชาวเวียดนามเข้ามาแย่ง
อาชีพขายสินค้า กรณีทัศนคติเหล่านี้น าไปสู่การกล่าววาจาอันเป็นการคุกคาม (Harassment) ด้วยเหตุแห่ง
เชื้อชาติได้ แต่ทั้งนี้ยังไม่มีกฎหมายเฉพาะส าหรับพฤติกรรมดังกล่าว
5
แต่ในบางภาคธุรกิจอาจมีกฎหมายเฉพาะเช่นการรับผู้โดยสารของแท็กซี่ แต่ก็ไม่ใช่กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกปฎิบัติตาม
ความหมายของสิทธิมนุษยชน

