Page 69 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
P. 69

๕.๓ ข้อจ�ากัดในการจัดท�าตราสารสิทธิมนุษยชนในอาเซียน



                       หากเปรียบเทียบจ�านวนตราสารสิทธิมนุษยชนที่จัดท�าในอาเซียนกับที่ปรากฏในสามภูมิภาคหลัก คือ ยุโรป
          อเมริกาและอาฟริกา ตามข้อมูลในบทที่ ๒ จะเห็นว่าอาเซียนยังมีจ�านวนตราสารด้านสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะตราสาร
          ที่มีผลผูกพันทางกฎหมายน้อยกว่าภูมิภาคอื่นมาก แน่นอนว่าในด้านระยะเวลาการจัดตั้ง หากนับตั้งแต่เวลาที่อาเซียน

          ประกาศใช้กฎบัตรในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่าแปดปีก็ยังถือว่าอาเซียนอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่ภูมิภาคอื่น
          (ยกเว้นอาฟริกา)  ก็สามารถจัดท�าตราสารสิทธิมนุษยชนในรูปแบบสนธิสัญญาหลายฉบับในระยะเวลาใกล้เคียงกัน  สาเหตุ

          หลักประการหนึ่งที่เป็นข้อจ�ากัดพื้นฐานที่ส�าคัญในการจัดท�าตราสารสิทธิมนุษยชนในอาเซียนไม่ว่าจะเป็นตราสารทาง
          การเมืองหรือกฎหมาย นอกเหนือจากประเด็นข้อจ�ากัดหรือความท้าทายของกลไกสิทธิมนุษยชนอาเซียนที่จะกล่าวถึงใน
          บทต่อไปโดยละเอียด คือ ข้ออ้างหรือความเข้าใจของประเทศสมาชิกอาเซียนที่ว่า ประเทศสมาชิกอาเซียนยังขาดจุดร่วมกัน

          (Commonality) ในด้านพันธกรณีสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศในหลายประเด็น โดยมีจุดร่วมกันเพียงสองประเด็น คือ
          สตรีและเด็ก  อันเนื่องมาจากการที่ทุกประเทศได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ
                                                 48
          (CEDAW) และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (CRC)  ในหัวข้อนี้จึงจะวิเคราะห์ให้เห็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพันธกรณีดังกล่าว
          ตลอดจนข้อพิจารณาที่ว่าจ�าเป็นหรือไม่ที่จะต้องให้ประเทศสมาชิกเข้าเป็นภาคีในตราสารสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
          ร่วมกันทั้งสิบประเทศ เพื่อให้เกิดจุดร่วมให้อาเซียนสามารถด�าเนินการในประเด็นสิทธิมนุษยชนดังกล่าวได้



                       ๕.๓.๑ การเป็นภาคีตราสารสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศของประเทศสมาชิกอาเซียน
                             นอกจากหลักการสิทธิมนุษยชนจะเป็นรากฐานของการก่อตั้งประชาคมอาเซียนดังที่ปรากฏ

          ในกฎบัตรอาเซียนแล้ว หลักการสิทธิมนุษยชนยังถูกรับรองจากประเทศสมาชิกอาเซียนว่ามีความส�าคัญโดยผ่านการลงนาม
          และให้สัตยาบันในตราสารหลักระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งมีจ�านวน  ๙  ฉบับ  อย่างไรก็ตาม  มีเพียงตราสาร
          ระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนจ�านวน ๒ ฉบับซึ่งประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งสิบประเทศได้ให้สัตยาบัน คือ อนุสัญญาว่า

          ด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (CEDAW) และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (CRC) นอกจากอนุสัญญา
          ทั้งสองฉบับ  ประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าเป็นภาคีตราสารหลักด้านสิทธิมนุษยชนอีก  ๗  ฉบับที่เหลือแตกต่างกัน  ดังมี

          รายละเอียดปรากฏในตารางที่  ๓  ซึ่งการที่รัฐสมาชิกอาเซียนเข้าเป็นภาคีในตราสารสิทธิมนุษยชนที่แตกต่างกัน โดยมี
          จุดร่วมกันเพียงสองเรื่อง คือ สตรีและเด็ก ท�าให้เป็นความท้าทายของอาเซียนในการก�าหนดนโยบายในประเด็นที่ยังคงมี
          ความแตกต่างกัน  และในหลายกรณียังถูกใช้เป็นข้ออ้างของประเทศสมาชิกที่ยังไม่เข้าเป็นภาคีในตราสารบางฉบับในการ

          ร่วมจัดท�าตราสารระดับภูมิภาคในอาเซียน เช่น สิทธิคนพิการ สิทธิทางการเมือง และสิทธิทางสังคมและวัฒนธรรม เป็นต้น







                 48
                   ประเทศบรูไนได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิผู้พิการ (CRPD) ณ วันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๕๙ ซึ่งอยู่นอกเหนือกรอบเวลา
          ของการศึกษา การเข้าเป็นภาคีดังกล่าวจึงไม่ถูกน�ามาเป็นส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์ในเนื้อหาของรายงานฉบับนี้ ดังนั้น จึงถือว่าอนุสัญญา
          ว่าด้วยสิทธิผู้พิการ ถือเป็น “จุดร่วมกัน (Commonality)” ประการที่ ๓ ของสมาชิกอาเซียนทั้ง ๑๐ ประเทศ





        68
               ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74