Page 184 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยแผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2562
P. 184

รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report)

               แผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2562


               ความสําคัญกับการลดความไม่เท่าเทียมกันทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ รัฐจะต้องให้ความสําคัญเป็น

               พิเศษแก่กลุ่มคนด้อยโอกาสในสังคม (vulnerable    groups) โดยเฉพาะเด็ก สตรี ผู้พิการ และผู้สูงอายุ

               ซึ่งยังคงถูกละเลยอยู่มาก และเพื่อบรรลุการพัฒนาที่ครอบคลุมทุกภาคส่วน และลดความไม่เสมอภาค

                       (4) วิธีการดําเนินการ (means of implementation) การเสริมสร้างหลักธรรมาภิบาล (good

               governance) และหลักนิติธรรม (rule of law) เป็นวิธีการนําไปสู่การพัฒนาที่ครอบคลุมและยั่งยืน โดยต้อง

               ตระหนักว่าการบรรลุการพัฒนาที่ยั่งยืนไม่อาจเกิดขึ้นได้ หากประเทศปราศจากความสงบสุขและขาดไร้ซึ่ง
               สันติภาพ


                       (5) การเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ โดยส่งเสริม
               การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และนักวิชาการ


                       ประเทศไทยซึ่งมีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในการพัฒนาระหว่างประเทศมาโดยตลอด ได้บรรลุ
               เป้าหมาย MDGs  ในหลายประการ จึงได้รับการยอมรับและความสนใจจากองค์การสหประชาชาติและจาก

               ประเทศที่มีระดับการพัฒนาน้อยกว่า ที่ประสงค์จะเรียนรู้ประสบการณ์ความสําเร็จของประเทศไทย เพื่อนําไป

               ปรับใช้กับประเทศตน ประเทศไทยยังมีบทบาทโดดเด่น ในฐานะหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา ด้วยการเป็นประเทศ
               กําลังพัฒนาที่ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศกําลังพัฒนาด้วยกัน ทั้งในภูมิภาคเดียวกันและต่างภูมิภาค การที่

               ไทยได้ดําเนินงานอย่างต่อเนื่องในการให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคและวิชาการในสาขาที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ

               ทําให้ประเทศพัฒนาแล้วประสงค์จะร่วมมือกับไทย ในการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศกําลังพัฒนาอื่นๆ
               ซึ่งบทบาทดังกล่าวเป็นบทบาทที่ไทยสามารถดําเนินการได้อย่างแข็งขันในเวทีระหว่างประเทศ ในการร่วมกัน

               กําหนดวาระการพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. 2015 ซึ่งจะเสริมสร้างสถานภาพและบทบาทของไทยให้เป็นที่ยอมรับ

               และสร้างความนิยมในบรรดาประเทศต่างๆ ยิ่งขึ้นไป

                                                        11
                       ส่วนความคืบหน้าของประเทศไทยนั้น  ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558 พลเอก ประยุทธ์
               จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (กพย.) ครั้งที่
               1/2558 โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจําสํานัก

               นายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม ภายหลังการประชุม นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการ

               คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้เผยถึงผลการประชุมสรุปสาระสําคัญว่า
               นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้เร่งการขับเคลื่อนให้เป็นไปตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ

               ตามที่ประเทศไทยได้ให้ความมุ่งมั่นไว้กับประชาคมโลก ในการประชุมสหประชาชาติเพื่อรับรองวาระการ

               พัฒนาภายหลังปี ค.ศ. 2015 ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้เป็นรูปธรรม

                       ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการทํางานของคณะกรรมการ กพย. แล้วมีมติเห็นชอบให้มีการเพิ่ม

               องค์ประกอบของคณะกรรมการโดยควรเพิ่มเติมทางด้านกฎหมาย อาทิ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


               11
                   http://www.thaigov.go.th/index.php?option=com_k2&view=item&id=96209:id96209&Itemid=339&lang=th


                                                           4-37
   179   180   181   182   183   184   185   186   187   188   189