Page 25 - รายงานศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ การตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence)
P. 25

ข้อจ ากัดและความท้าทายของแนวทางนี้คือ ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับคุณภาพของการมีส่วนร่วมจากผู้มีส่วนได้เสีย

                มาตรฐานการเก็บข้อมูล และอาจไม่เหมาะส าหรับการกับทุกพื้นที่ปฏิบัติการภายใต้เวลาจ ากัด


            3)  การประเมินความเสี่ยงและผลกระทบในทุกพื้นที่ปฏิบัติการของบริษัท (Regular Assessment of Compliance

                Risks and Impacts at All Sites) เป็นการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องซึ่งสอดคล้องกับนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนของ

                บริษัทและคุณภาพของการบูรณาการกับท้องถิ่น ประโยชน์ของแนวทางนี้คือ ท าให้เข้าใจบริบทด้านสิทธิมนุษยชน

                ที่ลึกซึ้งมากขึ้นและจัดการความท้าทายจากการเผชิญกับการจัดการท้องถิ่น เป็นการสร้างมาตรฐานที่มาจากการ

                พัฒนาวิธีด าเนินการและเครื่องมือด้านความเสี่ยงซึ่งขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละประเทศ นอกจากนี้ยังถือเป็นจุด

                คานงัดส าหรับมาตรการติดตามผ่านการบูรณาการเข้ากับธรรมาภิบาลของบริษัท


                ข้อจ ากัดคือ การรวบรวมข้อมูลและกระบวนการติดตามใช้ทรัพยากรมาก และการระบุความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจริง

                ขึ้นอยู่กับระดับของการมีส่วนร่วมของผู้ได้รับผลกระทบและคุณภาพของกลไกเยียวยาในพื้นที่


            4)  การเลือกประเมินบางพื้นที่การผลิต (Compliance Assessment at Selected Production Sites) เป็นวิธีการ

                สร้างความตระหนักด้านสิทธิมนุษยชนภายในบริษัท เพื่อพิจารณาภาพรวมและการเปรียบเทียบพื้นที่ต่างๆ ว่ามี

                การด าเนินการตามนโยบายของบริษัทอย่างไร มีการระบุประเด็นส าคัญและความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่

                ต่างๆ ใช้ส าหรับเป็นข้อมูลพื้นฐานในกระบวนการ HRDD แนวทางนี้มีข้อจ ากัดคือ ข้อมูลที่ได้ไม่เพียงพอต่อการ

                ระบุผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นจริง และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียภายนอกและกลุ่มผู้ได้รับ

                ผลกระทบน้อยเกินไป


            5)  การประเมินผลกระทบในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งมุ่งเน้นมาตรฐานแรงงานและแรงงานเด็ก (Assessing Impacts

                along a Single Supply Chain, Focusing on Labour Standards and Children's Rights) แนวทางนี้ช่วย

                ท าให้บริษัทมีความเข้าใจลึกซึ้งต่อบริบททางสิทธิมนุษยชนและผลกระทบอย่างเฉพาะเจาะจงในระดับที่แตกต่าง

                กันตลอดห่วงโซ่อุปทาน มีการนิยามและแก้ปัญหาร่วมกับซัพพลายเออร์และผู้มีส่วนได้เสีย และเพิ่มมุมมองให้กับ

                แผนการท างานของบริษัทและระบบตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ยังเป็นการเลือกประเด็นสิทธิมนุษยชนอย่างจ ากัด

                อีกทั้งการรวบรวมข้อมูลและกระบวนการติดตามใช้ทรัพยากรมาก





            ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทาน


                    ผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งโดยตรงจากการด าเนินงานของบริษัท และสายสัมพันธ์ทาง
            ธุรกิจ สิ่งที่ควรพิจารณาคือ ผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่อุปทาน ก่อนที่จะด าเนินการประเมิน บริษัทต้อง


            จัดท าแผนผังห่วงโซ่อุปทานและบริการต่างๆ รวมทั้งจัดล าดับความส าคัญ ดังนี้
                 1. จัดท าแผนผังห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ขี้นตอนจัดหาวัตถุดิบจนสิ้นสุดกระบวนการผลิต

                                                                                                          25
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30