Page 17 - รายงานวิจัย เรื่อง ทางเลือกเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยในค่ายพักพิงชั่วคราว
P. 17

บทที่ ๑




                     ความเป็นมา

                     และวิธีการศึกษา







                      ๑. ที่มาและความส�าคัญของปัญหา







































                                                                                                              1
                       ตลอดระยะเวลากว่า ๓๐ ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ด�าเนินนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนตามหลักสากล โดยรับผู้ลี้ภัย  และ
                                                                          2
               ผู้แสวงหาที่พักพิงจากประเทศพม่า/เมียนมาร์  ให้เข้ามาพ�านักอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัย   ซึ่งกระจายอยู่ตามแนวชายแดนไทย-พม่า/เมียนมาร์
               ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี และราชบุรี ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะไม่ได้เข้าร่วมภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย
               ค.ศ.  ๑๙๕๑  (Convention  Relating  to  the  Status  of  Refugees  1951)  ก็ตาม  แต่เมื่อมีการปะทะกันระหว่างกองก�าลัง

               ถืออาวุธชนกลุ่มน้อยกับกองทัพของรัฐบาลพม่า/เมียนมาร์ หรือระหว่างกองก�าลังของชนกลุ่มน้อยตามบริเวณชายแดนในฝั่งประเทศ
               พม่า/เมียนมาร์  อันเป็นสาเหตุส�าคัญที่ท�าให้ประชาชนของประเทศพม่า/เมียนมาร์ต้องหนีภัยการสู้รบและความไม่ปลอดภัยในชีวิตมายัง
               ชายแดนประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลไทยก็ได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ลี้ภัยเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน



                       1
                         โครงการวิจัยนี้ใช้ค�าว่า  “ผู้ลี้ภัย”  ตามค�าที่ผู้หนีภัยจากการสู้รบและพักอาศัยในค่ายพักพิงชั่วคราวเรียกตนเอง  ในขณะที่รัฐบาลไทยเรียกคนเหล่านี้
               ว่า “ผู้หนีภัยจากการสู้รบ” เป็นที่น่าสังเกตว่า ส�านักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (The United Nations High Commissioner for Refugees:
               UNHCR) เรียกคนเหล่านี้ว่าผู้ลี้ภัยเช่นเดียวกัน ทั้งที่รัฐบาลไทยไม่ได้เป็นภาคีอนุสัญญาสถานภาพผู้ลี้ภัย ค.ศ. ๑๙๕๑ ด้วยเหตุนี้จึงท�าให้รัฐบาลไทยไม่ใช้ค�าว่า
               “ผู้ลี้ภัย” โดยใช้ค�าว่า “ผู้หนีภัยจากการสู้รบ” และปฏิเสธการปฏิบัติการใด ๆ ที่มีผลผูกพันถึงการให้สิทธิต่าง ๆ ของผู้ลี้ภัยตามอนุสัญญาฯ ดังกล่าว แต่กลับ

               ยืนกรานให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเท่านั้น
                       2
                        พื้นที่หรือสถานที่ที่รัฐบาลไทยจัดหาให้ผู้ลี้ภัยการสู้รบจากประเทศพม่า/เมียนมาร์  มีทั้งหมด  ๙  แห่ง  เรียกว่า  พื้นที่พักพิงชั่วคราว  (Temporary
               Shelter) แต่ผู้ลี้ภัย ตลอดจนองค์กรที่ท�างานในพื้นที่ดังกล่าว และผู้ลี้ภัยเองจะเรียกว่า Refugee Camp (ค่ายผู้ลี้ภัย) แต่โดยทั่วไปจะเรียกสั้น ๆ ว่า แคมป์ (Camp)
               ทับศัพท์เสียงภาษาอังกฤษ ส�าหรับงานวิจัยนี้ ใช้ค�าว่า “ค่ายผู้ลี้ภัย” ตามค�าเรียกของผู้ลี้ภัยและองค์กรต่าง ๆ
             4                                                                                                                                                                                                                               5
             ทางเลือกเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยในค่ายพักพิงชั่วคราว                                                                                                                           ทางเลือกเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยในค่ายพักพิงชั่วคราว
   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22