Page 44 - รวมพระราชบัญญัติ ระเบียบ และแนวปฏิบัติ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบับพกพา)
P. 44
๓๘
หน้า ๑๐
เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๑๙๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๖ กันยายน ๒๕๕๙
(๕) คณะกรรมการเห็นว่าการดําเนินการไกล่เกลี่ยต่อไปจะไม่เป็นประโยชน์แก่การคุ้มครอง
สิทธิมนุษยชน
ข้อ ๓๒ เมื่อกระบวนการไกล่เกลี่ยสิ้นสุดลงตามข้อ ๓๑ (๑) ให้ผู้ไกล่เกลี่ยรายงานผลการไกล่เกลี่ย
ให้คณะกรรมการพิจารณา หากคณะกรรมการเห็นว่าการตกลงนั้นอยู่ในกรอบของการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
ก็ให้ยุติเรื่อง
ในกรณีที่คู่กรณีตกลงระงับข้อพิพาทเพียงบางประเด็น หรือตกลงรับข้อเท็จจริงบางประการ
และยินยอมให้นําข้อตกลงเช่นว่านั้นไปใช้อ้างอิงในการพิจารณาตรวจสอบของคณะกรรมการได้ ให้ผู้ไกล่เกลี่ย
จัดทําข้อตกลงเป็นหนังสือและรายงานให้คณะกรรมการทราบเพื่อดําเนินการต่อไป
ข้อ ๓๓ ในกรณีที่คู่กรณีไม่สามารถตกลงกันได้ หรือกระบวนการไกล่เกลี่ยสิ้นสุดลงตามข้อ ๓๑
(๒) (๓) (๔) และ (๕) หรือปรากฏในภายหลังว่าไม่มีการปฏิบัติตามข้อตกลงตามข้อ ๒๗ ให้คณะกรรมการ
ดําเนินการพิจารณาตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนตามอํานาจหน้าที่ต่อไป
ส่วนที่ ๖
การรักษาความลับในการไกล่เกลี่ย
ข้อ ๓๔ ในกรณีที่คู่กรณีไม่ได้ตกลงไว้เป็นอย่างอื่น ให้รักษาข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับการไกล่เกลี่ย
เป็นความลับ เว้นแต่เป็นการใช้เท่าที่จําเป็นเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างคู่กรณี
ข้อ ๓๕ ห้ามมิให้คู่กรณีที่เข้าร่วมในการไกล่เกลี่ย ผู้ไกล่เกลี่ยหรือบุคคลภายนอก รวมทั้ง
ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการไกล่เกลี่ย นําความลับไปอ้างอิง หรือนําไปใช้ดําเนินการอื่นใดไม่ว่าในรูปแบบใด
เกี่ยวกับเรื่องดังต่อไปนี้
(๑) ความประสงค์หรือความเต็มใจของคู่กรณีในการขอเข้าร่วมในการไกล่เกลี่ย
(๒) ความเห็นหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางหรือวิธีการในการระงับข้อพิพาทของคู่กรณี
ในการไกล่เกลี่ย
(๓) การยอมรับข้อเท็จจริงหรือข้อความที่กระทําโดยคู่กรณีในการไกล่เกลี่ย
(๔) ข้อเสนอใด ๆ ที่เสนอโดยผู้ไกล่เกลี่ย
(๕) ข้อเท็จจริงที่ได้แสดงให้เห็นถึงความเต็มใจที่จะยอมรับข้อเสนอในการไกล่เกลี่ย
(๖) เอกสารที่จัดทําโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะใช้หรือใช้ในการไกล่เกลี่ยโดยเฉพาะ
หากพยานหลักฐานใดที่ใช้ในการไกล่เกลี่ย เป็นพยานหลักฐานที่อ้างอิงได้อยู่แล้วในกระบวนการ
ตรวจสอบของคณะกรรมการ ย่อมไม่ต้องห้ามตามความในวรรคหนึ่ง
ข้อ ๓๖ การขอให้คณะกรรมการมีคําสั่งให้ส่งเอกสารหรือเรียกให้บุคคลใดมาเปิดเผยความลับ
หรือพยานหลักฐานที่กําหนดไว้ในข้อ ๓๕ วรรคหนึ่ง จะกระทํามิได้ เว้นแต่เป็นการกระทําเท่าที่จําเป็น
เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างคู่กรณี