Page 85 - รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการวิจัยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทย และความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน
P. 85
กลุ่มที่ ๔ คนไทยที่ถูกหลอกให้เดินทางไปท างานหรือค้าประเวณีที่สหพันธรัฐมาเลเซีย
สิงคโปร์ ไต้หวัน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
จากการสัมภาษณ์กรณีศึกษาที่เป็นเหยื่อประเทศละ ๒ ราย รวม ๑๐ ราย และการสัมภาษณ์
ผู้แทนจากมูลนิธิผู้หญิง (สัมภาษณ์เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๘) และผู้แทนมูลนิธิประวีณาหงสกุลเพื่อ
เด็กและสตรี (สัมภาษณ์เมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๘) ที่เคยให้ความช่วยเหลือหญิงไทยทั้งที่ไปโดยสมัคร
ใจ และถูกหลอกไปค้าประเวณีในต่างประเทศ พบว่า หญิงไทยที่ตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ที่
ต่างประเทศส่วนใหญ่ถูกหลอกลวงไปโดยญาติ บุคคลใกล้ชิด เพื่อน และกลุ่มมิจฉาชีพ แต่ก็มีบางรายที่
สมัครใจเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปค้าประเวณีโดยหวังว่าจะมีรายได้มากขึ้น แต่ในความเป็นจริงไม่ได้
เป็นไปอย่างที่คิด
ในการเดินทางออกนอกประเทศไปยังมาเลเซียและสิงคโปร์นั้น ค่อนข้างง่ายเนื่องจากอยู่ใน
ภูมิภาคอาเซียน การเดินทางจากประเทศไทยไปมาเลเซียและสิงคโปร์ สามารถเดินทางมาโดยรถบัสจาก
หาดใหญ่เข้ามาทางมาเลเซียและต่อไปที่สิงคโปร์ได้ ในขณะที่การไปไต้หวัน ญี่ปุุน เกาหลีใต้ ต้องเดินทาง
โดยเครื่องบิน แต่ก็ไม่ยากเกินไปกว่าความพยายามของผู้ที่ต้องการเดินทางไปขายบริการทางเพศ
เหยื่อที่ถูกหลอกลวงให้มาทํางานที่ทํางานในต่างประเทศมักจะเข้าใจว่าตนเองจะได้ทํางานใน
ร้านอาหาร โรงแรม หรือร้านนวดสปา แต่กลับถูกบังคับให้ค้าประเวณี โดยแต่ละรายจะต้องชดใช้หนี้แก่
นายหน้าโดยการทํางานรับแขกจํานวนนับ ๑๐๐ คนในขณะที่ผู้หญิงก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกับการกินอยู่
ระหว่างการทํางาน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะเข้าใจได้ในภายหลังว่าตนเองไม่มีโอกาสจะใช้หนี้ได้หมด และ
ตัดสินใจหลบหนี
เครือข่ายของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขนถ่ายผู้หญิงไปค้าประเวณีในต่างประเทศนั้นจะประกอบไป
ด้วยนายหน้าผู้พาเหยื่อมาจากต้นทาง บริษัททัวร์ คนขายบัตรโดยสารรถทัวร์ ไกด์ประจํารถทัวร์และ
นายหน้าใน ซึ่งเป็นลักษณะที่เป็นการทํางานกันเป็นทอดๆ จนถึงจุดหมายปลายทาง
มีเหยื่อบางรายได้ผันแปรตนเองจากการเป็นผู้ค้าประเวณี เป็นแม่เล้าหรือนายหน้าเอง โดยให้
ข้อเท็จจริงว่า การค้ามนุษย์ไม่มีทางปราบปรามได้เพราะผู้ที่อยู่ในขบวนการนี้เป็นผู้มีอํานาจ มีอิทธิพล ที่
อยู่ในวงการตํารวจ หรือนายทหารชั้นผู้ใหญ่ (ดูรายละเอียดในภาคผนวกที่ ๖) ซึ่งสามารถประมวลรูปแบบ
การเข้าสู่กระบวนการค้ามนุษย์ของเหยื่อที่เป็นคนไทย ได้ดังนี้
(๑) รูปแบบการเข้าสู่กระบวนการค้ามนุษย์ พบว่า คนไทยที่ตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ใน
รูปแบบการถูกบังคับให้ค้าประเวณีในต่างประเทศมีทั้งถูกหลอกไปและสมัครใจไปเองสําหรับผู้ที่ถูกหลอก
ไปจะถูกบังคับให้ค้าประเวณีเมื่อไปถึงประเทศปลายทางแล้ว ซึ่งทั้งสองกรณีมีนายหน้าที่เป็นคนไทย
ร่วมมือกับขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศปลายทางในการหลอกหญิงไทยไป เหยื่อของการค้ามนุษย์กลุ่มนี้
มาจากครอบครัวยากจน และต้องการรายได้สูงเพื่อการส่งเงินให้กับครอบครัวจึงหวังว่าการได้ไปทํางาน
ต่างประเทศจะทําให้ตนมีรายได้เพิ่มขึ้น รูปแบบของการทํางานมีทั้งการเป็นพนักงานบริการตาม
ร้านอาหาร และร้านนวดซึ่งเจ้าของร้านเปิดร้านบังหน้า ธุรกิจที่ทําจริงคือการบังคับให้หญิงไทยขายบริการ
ทางเพศ เหยื่อจะถูกกักขังไว้ในห้องแคบๆ และถูกยึดหนังสือเดินทาง ไม่สามารถติดต่อกับใครได้เลย เหยื่อ
ที่เป็นกรณีศึกษาในการวิจัยครั้งนี้ได้พยายามหนีไปขอความช่วยเหลือจากบุคคลภายนอกจนกระทั่ง
สถานทูตไทยทราบข่าวก็ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือและส่งกลับประเทศไทย บางรายแอบเขียนจดหมายถึง
ญาติพี่น้อง แล้วญาติพี่น้องได้มาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิประวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ทางมูลนิธิฯ
๖๕