Page 195 - ตราสารระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ไทยเป็นภาคี : จากเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ
P. 195

๕






                      ๑.  ความผิดที่อางถึงในขอ ๔ ใหถือวารวมอยูในความผิดทั้งปวงที่สงตัวบุคคลเปนผูรายขามแดนได

                      ในสนธิสัญญาสงผูรายขามแดนใดที่มีอยูระหวางรัฐภาคี รัฐภาคีรับที่จะเอาความผิดเชนวาเขาไปอยูใน

                      สนธิสัญญาสงผูรายขามแดนฉบับที่จะทําขึ้นมาระหวางกันในอนาคต ในฐานะความผิดตางๆ ที่สงตัว

                      บุคคลเปนผูรายขามแดนได


                      ๒.  หากรัฐภาคีรัฐใดรัฐหนึ่งซึ่งกําหนดใหการสงผูรายขามแดนขึ้นอยูกับเงื่อนไขของความคงอยูของ

                      สนธิสัญญา ไดรับการรองขอใหสงผูรายขามแดนจากรัฐภาคีอีกรัฐหนึ่ง รัฐภาคีซึ่งมิไดมีสนธิสัญญาสง

                      ผูรายขามแดนดวยกับรัฐภาคีนั้น มีสิทธิที่จะถือเอาอนุสัญญานี้เปนพื้นฐานทางกฎหมายสําหรับการสง

                      ผูรายขามแดนที่เกี่ยวกับความผิดเชนวาได การสงผูรายขามแดนตองอยูภายใตเงื่อนไขอื่นๆ ที่บัญญัติ
                      ไวตามกฎหมายของรัฐที่ไดรับการรองขอ



                      ๓.  รัฐภาคีทั้งปวงซึ่งมิไดกําหนดใหการสงผูรายขามแดนขึ้นกับเงื่อนไขของความคงอยูของ

                      สนธิสัญญา ตองยอมรับวาความผิดเชนวาเปนความผิดที่สงผูรายขามแดนระหวางกันได ภายใต

                      เงื่อนไขตาง ๆ ที่บัญญัติไวตามกฎหมายของรัฐที่ไดรับการรองขอ


                      ๔.  เพื่อความมุงประสงคของการสงผูรายขามแดนระหวางรัฐภาคีทั้งปวง ใหถือเสมือนวาความผิดเชน

                      วา มิไดเพียงแตกระทํา ณ ที่ซึ่งความผิดนั้นเกิดขึ้นเทานั้น แตไดกระทําในอาณาเขตของรัฐซึ่งมี
                      พันธกรณีที่จะตองทําใหตนมีเขตอํานาจเหนือการกระทําความผิดนั้นตามขอ ๕ วรรค ๑ ดวย



                                                               ขอ ๙



                      ๑.  รัฐภาคีทั้งปวงตองเสนอมาตรการใหความชวยเหลือกันและกันใหมากที่สุดในเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับ
                           การดําเนินคดีอาญาที่เกี่ยวกับความผิดใดที่อางถึงในขอ ๔ รวมทั้งการจัดสงพยานหลักฐานทั้ง

                           ปวงที่ตนมีอยูเทาที่จําเปนสําหรับการดําเนินคดีนั้นใหดวย

                      ๒.  ใหรัฐภาคีทั้งปวงตองปฏิบัติตามพันธกรณีของตนตามวรรค ๑ ของขอนี้ โดยสอดคลองกับ

                           สนธิสัญญาวาดวยการชวยเหลือซึ่งกันและกันทางการศาลที่อาจมีอยูระหวางกัน


                                                              ขอ๑๐

                      ๑. รัฐภาคีแตละรัฐตองประกันวาการศึกษาและขอสนเทศเกี่ยวกับหารหามการทรมานเขาไปบรรจุอยาง

                      สมบูรณในหลักสูตรการฝกอบรมบุคลากรที่มีหนาที่บังคับใชกฎหมาย ทั้งที่เปนพลเรือนหรือทหาร
   190   191   192   193   194   195   196   197   198   199   200