Page 37 - สิทธิและเสรีภาพในการศึกษา กรณีขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการเก็บเงินบำรุงการศึกษาตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ
P. 37
ขั้นพื้นฐานตามที่รัฐได้จัดให้ แต่เมื่อพิจารณาชื่อเรื่องในประกาศฉบับดังกล่าวที่กระทรวงศึกษาธิการ
ได้ระบุชื่อเรื่องของประกาศว่า เป็นการเก็บเงินบำารุงการศึกษา ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงและ
ไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติมาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
๒๕๕๐ ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการจึงควรกำาหนดชื่อเรื่องประกาศให้สอดคล้องเหมาะสมกับเนื้อหา
ของประกาศ และเพื่อให้เป็นไปตามมาตรา ๔๙ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
๒๕๕๐ การกำาหนดชื่อเรื่องและเนื้อหาของประกาศจะต้องสื่อความหมายให้ผู้ปกครองและนักเรียน
เข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าเป็นการเก็บเงินบำารุงการศึกษานอกหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
และเมื่อพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษานอกหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ที่เป็นการพัฒนาผู้เรียนให้มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา ความรู้และคุณธรรม
มีจริยธรรมและวัฒนธรรม สามารถดำารงชีวิตอย่างมีความสุขได้บนพื้นฐานของความเป็นไทยและ
ความเป็นสากล ดังนั้น รัฐจึงควรสนับสนุนและให้ความสำาคัญในการพัฒนาการศึกษาของชาติให้มี
ความก้าวหน้าเพื่อทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก และเพื่อให้เกิดการพัฒนาด้านการศึกษาที่มี
คุณภาพและเหมาะสมกับผู้เรียน ถือได้ว่ารัฐได้ดำาเนินการตามแนวนโยบายด้านการศึกษา โดยพัฒนา
คุณภาพและมาตรฐานการจัดการศึกษาในทุกระดับและทุกรูปแบบให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลง
ทางเศรษฐกิจและสังคม สอดคล้องกับมาตรา ๘๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
๒๕๕๐ ซึ่งในอนาคตกระทรวงศึกษาธิการควรพัฒนาหลักสูตรแกนกลาง โดยมีการบรรจุการจัดการเรียน
การสอนนอกหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานเข้าไว้ในหลักสูตรการจัดการศึกษาในหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานตามที่รัฐจัดให้ของสถานศึกษาทั่วประเทศ เนื่องจากปัจจุบันสถานศึกษา
ต้องการที่จะเพิ่มพูนประสิทธิภาพและคุณภาพการศึกษาของผู้เรียน และเพื่อเป็นประโยชน์ในการ
พัฒนาคุณภาพการศึกษาต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ ต้องคำานึงถึงการพัฒนาผู้เรียนเป็นหลัก โดยเป็นไป
ตามศักยภาพและความเหมาะสมของผู้เรียนด้วย
๓.๓ ก�รบังคับใช้ประก�ศฉบับดังกล่�วเป็นก�รกระทำ�ที่สอดคล้องกับม�ตร� ๒๙ ของรัฐธรรมนูญแห่ง
ร�ชอ�ณ�จักรไทย พุทธศักร�ช ๒๕๕๐ ปฏิญญ�ส�กลว่�ด้วยสิทธิมนุษยชน ข้อ ๒๖ และกติก�ระหว่�งประเทศ
ว่�ด้วยสิทธิท�งเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ข้อ ๑๓ เกี่ยวกับสิทธิในก�รศึกษ�ที่รัฐต้องจัดให้ หรือไม่
คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า ในการบังคับใช้ประกาศฉบับดังกล่าว
กระทรวงศึกษาธิการได้กำาหนดให้สถานศึกษาในสังกัดสำานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เก็บเงินบำารุงการศึกษาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเรียนการสอนนอกหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน โดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และเป็นไปด้วยความสมัครใจ
ของผู้ปกครองและนักเรียน ภายใต้หลักเกณฑ์ที่สำานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำาหนด
นอกจากนี้ สำานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้กำาหนดหลักเกณฑ์ตามประกาศฉบับดังกล่าว
เกี่ยวกับเงินบำารุงการศึกษาของสถานศึกษาสังกัดสำานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดย
ค่าใช้จ่ายที่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาล จำานวน ๒๒ รายการ ที่สถานศึกษาไม่สามารถขอรับการ
สนับสนุนจากนักเรียนหรือผู้ปกครองได้ และค่าใช้จ่ายสำาหรับการจัดการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริม
และพัฒนาคุณภาพการศึกษาของนักเรียน ซึ่งสถานศึกษาจัดให้นักเรียนเกินมาตรฐานที่รัฐจัดให้
36
สิทธิและเสรีภาพในการศึกษา กรณีขอให้ตรวจสอบและดำาเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการเก็บเงินบำารุงการศึกษาตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ