Page 36 - สิทธิและเสรีภาพในการศึกษา กรณีขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการเก็บเงินบำรุงการศึกษาตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ
P. 36
บุคคลใดเป็นการเฉพาะ ซึ่งผู้ปกครองและนักเรียนได้รับผลกระทบจากประกาศฉบับดังกล่าว ทำาให้
ต้องมีค่าใช้จ่ายในการศึกษาเพิ่มเติมจากที่รัฐจัดให้ ดังนั้น ประกาศฉบับดังกล่าวจึงเป็น “กฎ” ตาม
ความหมายในมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ และมีผลใช้
บังคับเป็นการทั่วไป
กระทรวงศึกษาธิการก็ยังคงต้องส่งประกาศฉบับดังกล่าวไปยังสำานักเลขาธิการ
คณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา และเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ
การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕
๓.๒ ประก�ศฉบับดังกล่�วสอดคล้องกับม�ตร� ๔๙ และม�ตร� ๘๐ ของรัฐธรรมนูญแห่ง
ร�ชอ�ณ�จักรไทย พุทธศักร�ช ๒๕๕๐ หรือไม่
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการโดยสำานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ดำาเนิน
การตามแนวทางที่ได้จากการหารือกับสำานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยกระทรวงศึกษาธิการ
ได้กำาหนดเกณฑ์มาตรฐานทั่วไปของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานว่า กรณีใดบ้างที่เป็น
การจัดการศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานซึ่งอยู่ในความหมายของมาตรา ๔๙
วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ที่กำาหนดว่า รัฐจะต้องจัดให้
อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย และกรณีใดบ้างที่อยู่นอกหลักสูตรขั้นพื้นฐานข้างต้น
อันอาจเรียกเก็บค่าใช้จ่ายได้ ทั้งนี้ การเข้ารับการศึกษาเพิ่มเติมจากเกณฑ์มาตรฐานทั่วไปซึ่งต้อง
เสียค่าใช้จ่ายนี้ สถานศึกษาต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งมี
หน้าที่กำากับและส่งเสริมสนับสนุนกิจการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานตามมาตรา ๔๐ แห่งพระราชบัญญัติ
การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และประกาศให้นักเรียนและผู้ปกครองทราบล่วงหน้าว่า รายการ
ที่เกี่ยวกับการจัดการศึกษาของนักเรียนที่เพิ่มเติมจากเกณฑ์มาตรฐานทั่วไปของหลักสูตรการศึกษา
ขั้นพื้นฐานที่กระทรวงศึกษาธิการกำาหนดเป็นรายการที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้นักเรียนและผู้ปกครอง
แสดงความสมัครใจว่าประสงค์จะเข้าร่วมโครงการในการศึกษานอกหลักสูตรโดยเสียค่าใช้จ่ายนั้น
คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เงินบำารุง
การศึกษาของสถานศึกษาสังกัดสำานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ลงวันที่ ๒๔ มีนาคม
๒๕๕๓ กระทรวงศึกษาธิการได้ระบุชื่อเรื่องของประกาศว่า เป็นการเก็บเงินบำารุงการศึกษา แต่เมื่อ
พิจารณาจากเนื้อหาของประกาศเป็นการเก็บเงินบำารุงการศึกษาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเรียน
การสอน นอกหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งมุ่งเน้นหลักสูตรที่มีเนื้อหาสาระมากกว่า
ปกติ การสอนด้วยบุคลากรพิเศษ การสอนด้วยรูปแบบหรือวิธีการที่แตกต่างจากการเรียนการสอน
ปกติ หรือการสอนที่ใช้สื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จัดหาให้เป็นพิเศษ ตามอัตราที่เหมาะสมกับสภาพ
ฐานะทางเศรษฐกิจของท้องถิ่น โดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และเป็นไป
ด้วยความสมัครใจของผู้ปกครองและนักเรียน ภายใต้หลักเกณฑ์ที่สำานักงานคณะกรรมการการศึกษา
ขั้นพื้นฐานกำาหนด ซึ่งเนื้อหาของประกาศมิได้ขัดหรือแย้งกับมาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ แต่อย่างใด เนื่องจากเป็นการเก็บเงินบำารุงการศึกษานอกหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มิใช่การเก็บเงินบำารุงการศึกษาในหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
35
สิทธิและเสรีภาพในการศึกษา กรณีขอให้ตรวจสอบและดำาเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการเก็บเงินบำารุงการศึกษาตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ