Page 33 - สิทธิและเสรีภาพในการศึกษา กรณีขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการเก็บเงินบำรุงการศึกษาตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ
P. 33

ไม่เป็นธรรมได้พิจารณาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องโดยตลอดแล้วเห็นว่า มีประเด็นปัญหา
                 ที่ต้องวินิจฉัย คือ

                           ประเด็นที่  ๑  กรณีตามคำาร้อง  เป็นประเด็นเดียวกันกับที่ศาลปกครองกลางและศาลปกครอง
                 สูงสุดได้มีคำาพิพากษาแล้วหรือไม่  และเป็นไปตามมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการ

                 สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ หรือไม่ อย่างไร
                           กรณีตามคำาร้อง ผู้ร้องประสงค์ให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตรวจสอบและดำาเนิน

                 คดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการเรียกเก็บเงินบำารุงการศึกษา ซึ่งกรณีเดียวกันนี้
                 ผู้ร้องได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางและศาลปกครองสูงสุด เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่

                 ของรัฐกระทำาการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งศาลปกครองกลางและศาลปกครองสูงสุดได้มีคำาพิพากษา
                 แล้ว แต่เนื่องจากศาลได้พิพากษาว่าผู้ร้องมิใช่ผู้เสียหายหรืออาจได้รับความเดือดร้อนเสียหายโดยมิอาจ

                 หลีกเลี่ยงได้  จึงไม่มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ตามมาตรา ๔๒ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติ
                 จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒  ศาลปกครองจึงยังมิได้วินิจฉัยในประเด็น

                 ที่ผู้ร้องกล่าวอ้างว่า โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา อาศัยประกาศกระทรวงศึกษาธิการที่ไม่ชอบ
                 ด้วยกฎหมายมาเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายผู้ปกครองนักเรียน  จึงมิใช่เป็นเรื่องที่มีการฟ้องร้องเป็นคดีอยู่ใน

                 ศาลหรือที่ศาลพิพากษาหรือมีคำาสั่งเด็ดขาดแล้ว ตามมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการ
                 สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติสามารถดำาเนินการตรวจสอบ

                 ต่อไปได้

                           ประเด็นที่  ๒  ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เงินบำารุงการศึกษาของสถานศึกษาในสังกัด

                 กระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๑ ซึ่งปัจจุบันได้ยกเลิกแล้ว ประกาศฉบับดังกล่าว
                 จะต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามมาตรา ๕ ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒

                 ก่อนที่จะมีการบังคับใช้หรือไม่
                           กระทรวงศึกษาธิการได้ชี้แจงว่า  การจัดทำาประกาศฉบับดังกล่าวโดยเป็นไปตามความเห็น

                 ของสำานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการอาศัยอำานาจตาม
                 มาตรา ๕ และมาตรา ๕๘ (๒) แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม

                 และมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖  การจัดทำา
                 ประกาศดังกล่าวมิได้นำาไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา เนื่องจากเป็นเพียงการกำาหนดหลักเกณฑ์

                 การเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อให้สอดคล้องกับความเห็นของสำานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และเพื่อให้
                 สถานศึกษาในสังกัดถือปฏิบัติให้เป็นแนวทางเดียวกันเท่านั้น  และเพื่อให้การจัดการศึกษาตาม

                 หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไข
                 เพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งมุ่งเน้นที่จะพัฒนาผู้เรียนให้มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ และ

                 สติปัญญา ความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรม สามารถดำารงชีวิตอย่างมีความสุขได้บน
                 พื้นฐานของความเป็นไทยและความเป็นสากล รวมทั้งพัฒนาผู้เรียนให้มีศักยภาพพร้อมที่จะแข่งขัน

                 และร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ในเวทีโลกโดยให้บุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครอง



            32

            สิทธิและเสรีภาพในการศึกษา กรณีขอให้ตรวจสอบและดำาเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
            ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการเก็บเงินบำารุงการศึกษาตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38