Page 181 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยและรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2557
P. 181

180  รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำาปี ๒๕๕๗








                        ๖) รายงานที่ ๑๕๙/๒๕๕๗

                              สิทธิในกระบวนการยุติธรรม อันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิของผู้ต้องขัง
                              กรณีกล่าวอ้างว่า เจ้าหน้าที่ตำารวจ สถานีตำารวจภูธรพลับพลาชัย

                              อำาเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ดำาเนินคดีล่าช้า

                              ๖.๑)  ความเป็นมา

                                    นาย ก (นามสมมติ) ได้ร้องเรียนต่อ กสม. ว่า ผู้ร้องเป็นนักโทษเด็ดขาดถูกคุมขังอยู่ที่
                    เรือนจำากลางคลองไผ่ตามคำาพิพากษาของศาลจังหวัดสีคิ้วในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ ศาลจังหวัด

                    สีคิ้ว พิพากษาให้จำาคุก ๑๕ ปี ปัจจุบันถูกคุมขังมาแล้ว ๑๓ ปี ระหว่างรับโทษจำาคุกในความผิดดังกล่าว
                    สถานีตำารวจภูธรพลับพลาชัย อำาเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มีหนังสือลงวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๔

                    ขออายัดตัวผู้ร้องไว้ดำาเนินคดี  ผู้ร้องมีหนังสือเร่งรัดการดำาเนินคดีไปยังสถานีตำารวจภูธรพลับพลาชัยแล้ว
                    แต่จนกระทั่งวันที่ผู้ร้องร้องเรียนมายัง กสม.  พนักงานสอบสวนสถานีตำารวจภูธรพลับพลาชัย ยังไม่สรุป

                    สำานวนส่งให้พนักงานอัยการเพื่อฟ้องคดีผู้ร้องต่อศาลแต่อย่างใด การดำาเนินคดีล่าช้าของพนักงานสอบสวน
                    สถานีตำารวจภูธรพลับพลาชัยทำาให้ผู้ร้องได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ผู้ร้องจึงเรียกร้องขอความเป็นธรรม

                    และขอให้เร่งรัดการดำาเนินคดีของพนักงานสอบสวน สถานีตำารวจภูธรพลับพลาชัย

                              ๖.๒)  การดำาเนินการของ กสม.

                                    กสม. มอบหมายให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านสิทธิ
                    ในกระบวนการยุติธรรมเป็นผู้พิจารณาตรวจสอบกรณีการร้องเรียนข้างต้นแล้ว เห็นว่า คดีตามคำาร้องเรียน

                    เป็นคดีอาญาทั่วไป ปรากฏตัวผู้กระทำาความผิด และผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำา
                    กลางคลองไผ่ ซึ่งพนักงานสอบสวนสถานีตำารวจภูธรพลับพลาชัยได้ทราบถิ่นที่อยู่ของผู้ต้องหาชัดเจนแล้ว

                    ดังนั้น การที่พนักงานสอบสวนใช้เวลาในการดำาเนินการตามกระบวนการและขั้นตอนการดำาเนินคดีตาม
                    คำาร้องเป็นระยะเวลากว่า ๑๓ ปี จึงมีความล่าช้าเกินสมควร สร้างความไม่เป็นธรรมและเป็นการละเมิด

                    สิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของผู้ร้อง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่มีสิทธิได้รับการสอบสวนหรือการ
                    พิจารณาคดีที่รวดเร็วตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๔๐ ได้รับรอง

                    และคุ้มครองไว้  กสม. จึงได้กำาหนดมาตรการการแก้ไข ดังนี้
                                    มาตรการการแก้ไข

                                    ให้สำานักงานตำารวจแห่งชาติพิจารณาดำาเนินการตามอำานาจหน้าที่กับเจ้าหน้าที่ตำารวจ
                    ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการและขั้นตอนการดำาเนินคดีที่ล่าช้าข้างต้น ทั้งนี้ ขอให้สำานักงานตำารวจแห่งชาติ

                    แจ้งผลการดำาเนินการให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบ ภายใน ๖๐ วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับ
                    รายงานการตรวจสอบฯ


                              ๖.๓)  ผลดำาเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

                                    ตำารวจภูธรภาค ๓ มีหนังสือ ที่ ตช ๐๐๑๘.๑๗๒/๗๑๘  ลงวันที่ ๑๖ ธันวาคม
   176   177   178   179   180   181   182   183   184   185   186