Page 182 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยและรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2557
P. 182
รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำาปี ๒๕๕๗ 181
๒๕๕๗ แจ้งว่า สำานักงานตำารวจแห่งชาติมอบหมายให้ตำารวจภูธรภาค ๓ ดำาเนินการตามมาตรการ
การแก้ไขฯ ของ กสม. ซึ่งตำารวจภูธรภาค ๓ ได้สั่งการให้ตำารวจภูธรบุรีรัมย์ ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี
ดังกล่าว ปรากฏว่า พนักงานสอบสวนสถานีตำารวจภูธรพลับพลาชัยผู้รับผิดชอบคดีดังกล่าว ได้ดำาเนินการ
สอบสวนตามขั้นตอนโดยถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องแล้ว ไม่ได้เกิดความล่าช้า ไม่พบ
ข้อบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ จึงได้ยุติเรื่อง และได้กำาชับผู้กำากับการสถานีตำารวจภูธรพลับพลาชัย
เข้มงวดกวดขัน กำาชับการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนตามคำาสั่งสำานักงานตำารวจแห่งชาติ
ที่ ๔๑๙/๒๕๕๖ ลงวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ไว้ส่วนหนึ่งแล้ว
นอกจากนี้ ตำารวจภูธรภาค ๓ พิจารณาแล้วเห็นว่า คดีดังกล่าวเกิดเหตุเมื่อวันที่ ๒
เมษายน ๒๕๔๓ พนักงานสอบสวนได้รับคำาร้องทุกข์ตามคดีอาญาที่ ๓๐/๒๕๔๓ และได้สอบสวนสรุป
สำานวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องนาย ก กับพวกรวม ๓ คน ผู้ต้องหา เสนออัยการจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่
๑๒ มิถุนายน ๒๕๔๓ ใช้เวลาสอบสวนประมาณ ๒ เดือนเศษ การสอบสวนมิได้ล่าช้าโดยยังมิได้สรุป
สำานวนการสอบสวนส่งให้พนักงานอัยการฟ้องคดีตามที่กล่าวหาแต่อย่างใด แต่เป็นกรณีผู้ต้องหาหลบหนี
จึงได้จับกุมตัวส่งอัยการโดยสามารถจับกุมนาง ข (นามสมมติ) ผู้ต้องหาที่ ๓ และได้อายัดตัวนาง ค
(นามสมมติ) ผู้ต้องหาที่ ๒ ส่งตัวให้พนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ดำาเนินการแล้ว คงเหลือแต่นาย ก
ผู้ต้องหาที่ ๑ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำารวจ สถานีตำารวจภูธรพลับพลาชัย ได้ตรวจสอบติดตามตลอดจน พบว่า
ถูกจำาคุกอยู่ที่เรือนจำาคลองไผ่ จึงขออายัดตัวนาย ก เมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๔ จากนั้นได้ดำาเนินการ
จนกรมราชทัณฑ์มีคำาสั่งอนุญาตให้เรือนจำาคลองไผ่ย้ายนาย ก ไปคุมขังที่เรือนจำาจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้
อัยการจังหวัดบุรีรัมย์ฟ้องคดีดังกล่าวต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์ต่อไปแล้ว กรณีฟังไม่ได้ว่าพนักงานสอบสวน
ดำาเนินกระบวนการสอบสวนล่าช้ากว่า ๑๓ ปีแต่อย่างใด จึงเห็นชอบให้ยุติเรื่อง
๗) รายงานที่ ๒๔๐/๒๕๕๗
สิทธิชุมชน กรณีขอให้ตรวจสอบการบังคับใช้ระเบียบกรมเจ้าท่า ว่าด้วย
เขตการเดินเรือของเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขตและเรือเดินทะเลที่มิใช่เรือกล
เดินภายในประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๕ ละเมิดสิทธิมนุษยชนของชาวประมงพื้นบ้าน
๗.๑) ความเป็นมา
ผู้ร้องได้ร้องเรียนต่อ กสม. เป็นหนังสือลงวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ตามคำาร้อง
ที่ ๑๔๓/๒๕๕๖ กล่าวอ้างว่า ตามที่กรมเจ้าท่าได้ออกระเบียบกรมเจ้าท่า ว่าด้วยเขตการเดินเรือของ
เรือกลเดินทะเลเฉพาะเขตและเรือเดินทะเลที่มิใช่เรือกลเดินภายในประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๕ ซึ่งกำาหนดให้
เรือประมงพื้นบ้านทำาประมงได้ไม่เกิน ๓ ไมล์ทะเลจากฝั่งหรือเกาะในเวลาคลื่นลมสงบ นั้น ผู้ร้องเห็นว่า
เป็นระเบียบที่เป็นการจำากัดสิทธิเสรีภาพในการเดินเรือและการประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน จึงขอให้
ตรวจสอบ