Page 127 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 2 ระหว่าง มกราคม - มิถุนายน 2558
P. 127

125
                                              ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                                                     ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๒  ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๘


                        ๓.๒  การรับฟังความเห็นจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง

                             คณะอนุกรรมการฯ ได้รับฟังข้อมูลและความเห็นเรื่องการคัดเลือกเข้ารับราชการทหาร

                  กองประจำาการ โดยวิธีสมัครใจดังกล่าวจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๘ มีสาระสำาคัญ
                  โดยสรุป ดังนี้

                             ๓.๒.๑  ผู้แทนจากกรมการสรรพกำาลังกลาโหม ให้ข้อมูลและความเห็น ดังนี้

                                    (๑) กรมการสรรพกำาลังกลาโหมมีหน้าที่ดูแลและปฏิบัติตามกฎหมาย ในพระราชบัญญัติ
                  รับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗  โดยมาตรา ๗ บัญญัติให้ ชายที่มีสัญชาติเป็นไทยตามกฎหมาย มีหน้าที่รับราชการ

                  ทหารด้วยตนเองทุกคน  และมาตรา ๕๑ บัญญัติให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
                  มหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้  และให้มีอำานาจออกกฎกระทรวงร่วมกันเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตาม

                  พระราชบัญญัตินี้  ทั้งนี้ มาตรา ๖ บัญญัติให้มีการเรียกและการตรวจเลือกคนเข้าเป็นตำารวจกองประจำาการ
                  โดยให้ปฏิบัติเช่นเดียวกันกับการเรียกและการตรวจเลือกคนเข้าเป็นทหารกองประจำาการ  ปัจจุบันไม่มีการคัดเลือก
                  ตำารวจกองประจำาการ  แต่ในอนาคตอาจมีความจำาเป็นต้องใช้กำาลังพลจากตำารวจกองประจำาการเพื่อปฏิบัติหน้าที่

                  ในกองบัญชาการตำารวจตระเวนชายแดน
                                    (๒) พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗  มาตรา ๑๖  บัญญัติให้  ชายไทย

                  เมื่อมีอายุย่างเข้า ๑๘ ปี ในพุทธศักราชใดให้ไปแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกินภายในพุทธศักราชนั้น โดยจะ
                  ได้รับใบ สด. ๙ (หนังสือลงบัญชีทหารกองเกิน) และมาตรา ๒๕ บัญญัติให้ ทหารกองเกินเมื่อมีอายุย่างเข้า
                  ๒๑ ปี ในพุทธศักราชใด ต้องไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรียกที่อำาเภอท้องที่ซึ่งเป็นภูมิลำาเนาทหารของตนภายใน

                  พุทธศักราชนั้น คือ ในปีที่อายุ ๒๑ ปีบริบูรณ์  หากไม่สามารถจะไปรับหมายเรียกด้วยตนเองได้ ต้องให้บุคคล
                  ซึ่งบรรลุนิติภาวะและพอจะเชื่อถือได้ไปรับหมายเรียกแทน ถ้าไม่มีผู้แทนให้ถือว่าผู้นั้นหลีกเลี่ยงขัดขืน ต้องระวาง

                  โทษจำาคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามร้อยบาท  และถ้าก่อนที่เจ้าหน้าที่ยกเรื่องขึ้นพิจารณาความผิด
                  บุคคลนั้นได้มาขอลงบัญชีทหารกองเกินหรือขอลงบัญชีทหารกองเกินใหม่  หรือมาขอรับหมายเรียกที่อำาเภอ
                  ด้วยตนเอง หรือให้บุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะและเชื่อถือได้มาแทนตน แล้วแต่กรณี  ต้องระวางโทษจำาคุกไม่เกิน

                  หนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาท หรือทั้งจำาทั้งปรับ ตามความในมาตรา ๔๔  แต่ทั้งนี้มีข้อยกเว้น เช่น
                  นักเรียนไปศึกษายังต่างประเทศ ข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ในการรบหรือในระหว่างสงคราม บุคคลที่กำาลัง
                  ปฏิบัติงานในหน่วยทหารในราชการภาคสนาม หรือเกิดเหตุสุดวิสัย หรือป่วยไม่สามารถจะมาได้หลังจากการ

                  ตรวจเลือกแล้วเสร็จ ท้องที่อำาเภอจะทำาการสอบสวนเบื้องต้นก่อนว่า ผู้ไม่มาตรวจเลือกนั้นเข้าข่ายข้อยกเว้นหรือไม่
                  ก่อนดำาเนินคดี

                                    (๓) สำาหรับผู้มีคุณวุฒิพิเศษจะให้รับราชการทหารกองประจำาการน้อยกว่า ๒ ปีก็ได้ ซึ่งไม่
                  เพียงแต่เฉพาะผู้มีคุณวุฒิการศึกษาอย่างเดียวเท่านั้น  กฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๔ (พ.ศ. ๒๕๐๘) ออกตามความใน

                  พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗ ข้อ ๒ ยังกำาหนดให้ ผู้ซึ่งสมควรอยู่ในกองประจำาการน้อยกว่า
                  ๒ ปี ตามความในมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง เช่น ข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร ข้าราชการตุลาการ
                  ดะโตะยุติธรรม ข้าราชการอัยการ ผู้สำาเร็จชั้นอุดมศึกษาหรือผู้สำาเร็จการศึกษาจากต่างประเทศฯ ผู้สำาเร็จการฝึก

                  วิชาทหารจากต่างประเทศซึ่งกระทรวงกลาโหมรับรองวิทยฐานะฯ เป็นต้น  นอกจากนี้ มาตรา ๑๓  บัญญัติให้
                  บุคคลดังต่อไปนี้ ยกเว้นไม่ต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำาการ เช่น พระภิกษุที่มีสมณศักดิ์หรือที่เป็นเปรียญ
   122   123   124   125   126   127   128   129   130   131   132