Page 380 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 380

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                                                                                               National Human Rights Commission of Thailand

                            ในป 2504 ไดมีการประกาศใชนโยบายการใชที่ดินและกรรมสิทธิ์ของประเทศเปนครั้งแรก

               โดยเริ่มจากการจําแนกประเภทที่ดินอยางกวางขวางในพื้นที่ทั่วประเทศ เนื้อที่ประมาณ 320.7 ลานไร

               ซึ่งแบงออกเปน 2 เขต คือ พื้นที่ทําการเกษตร ที่อยูอาศัย และอื่น ๆ เนื้อที่ประมาณ 160.35 ลานไร

               และปาไมถาวร เนื้อที่ประมาณ 160.35 ลานไร ภายใตกรอบนโยบายดังกลาวไดมีหนวยงานราชการรับผิดชอบ
               ดําเนินการกับการใชและกรรมสิทธิ์ที่ดินในลักษณะตาง ๆ กัน ซึ่งปรากฏผล ดังนี้

                            1.  ในพื้นที่ทําการเกษตร 160.35 ลานไร กรมที่ดินไดออกเอกสารสิทธิ์ใหตามหลักการบุกรุก

               และโดยที่รากฎวาราษฎรเขาบุกเบิกพื้นที่กันเปนจํานวนมาก จึงมีโครงการเรงรัดการออกหนังสือรับรอง

               การทําประโยชน (น.ส.3) ขึ้น แตปรากฏวา มีพื้นที่ที่ออกเอกสิทธิ์ได ยังตกคางการออกเอกสารสิทธิ์ประมาณ
               30 ลานไร

                            2.  ในพื้นที่ปาไมถาวร 160.35 ลานไร  กรมปาไมไดประกาศเขตปาสงวนแหงชาติ  เขตวนอุทยาน

               แหงชาติ เขตรักษาพันธุสัตวปา และอื่น ๆ ไดพื้นที่ประมาณ 123 ลานไร แตปรากฏวา มีพื้นที่ปาไมถาวร

               ที่ยังไมไดประกาศเปนปาสงวนแหงชาติอีกประมาณ 30 ลานไร  เรียกวา ปาเตรียมการสงวน
                            3.  ภายในพื้นที่ปาสงวนแหงชาติ ซึ่งอยูในความดูแลของกรมปาไม จํานวน 123 ลานไร

               มีราษฎรไดบุกรุกเขาไปใชที่ดินเพื่อทําการเกษตร ประมาณ 30 ลานไร

                            4.  รัฐบาลไดพยายามแกไขปญหาที่ดิน โดยอาศัยวิธีการจัดที่ดินใหแกราษฎร โดยมีหนวยงาน

               ราชการหลายหนวยงานเปนผูรับผิดชอบ เชน กรมประชาสงเคราะห กรมสงเสริมสหกรณ กรมที่ดิน สํานักงาน
               การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม องคการสงเคราะหทหารผานศึก เปนตน ซึ่งการจัดที่ดินดังกลาว มีทั้งที่อยู

               ในเขตปาสงวนแหงชาติ  และนอกเขตปาสงวนแหงชาติ  เนื้อที่ประมาณ 30  ลานไร  ในจํานวนนี้ไดมี

               การจัดสรรไปแลวประมาณ 15 ลานไร  ยังเหลือพื้นที่ที่ยังไมไดจัดสรรอีกประมาณ 15 ลานไร

                            ในคราวการประชุมของคณะกรรมการพัฒนาชนบทแหงชาติ ครั้งที่ 2/2525 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม
               พ.ศ. 2525 ไดพิจารณาถึงนโยบายการใชและกรรมสิทธิ์ที่ดิน และนโยบายเกี่ยวกับการจัดตั้งธนาคารที่ดินเห็นวา

               สภาพการใชที่ดินของประเทศไดเปลี่ยนแปลงไปอยางมาก ดังนั้น นโยบายที่เปนอยูจึงขาดความชัดเจน

               ในดานวิธีการแกไขปญหา เปาหมาย และระยะเวลา ทําใหหนวยงานที่เกี่ยวของไมสามารถปฏิบัติการใหสอดคลอง

               และประสานกันเพื่อใหเกิดประโยชนสูงสุดในการใชและบริหารทรัพยากรที่ดินของชาติ คณะกรรมการ
               พัฒนาชนบทแหงชาติ จึงมีมติเห็นควรจะกําหนดนโยบายการใชและกรรมสิทธิ์ที่ดิน เพื่อเสนอใหคณะรัฐมนตรี

               อนุมัติ  ดังนี้

                            1.  พื้นที่ปาไมถาวร ที่ยังไมไดประกาศเปนปาสงวนแหงชาติ ใหดําเนินการดังตอไปนี้

                            (1)  ใหกระทรวงเกษตรและสหกรณ  รวมกับกรมที่ดิน กรมแผนที่ทหาร และหนวยงานที่เกี่ยวของ
               ทําการสํารวจและจําแนกประเภทที่ดินอยางละเอียดใหเสร็จภายใน พ.ศ. 2530





                                                                       รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข  359
                                                                นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   375   376   377   378   379   380   381   382   383   384   385