Page 149 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 149
สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
National Human Rights Commission of Thailand
ชาวกะเหรี่ยง จํานวน 98 หลัง ยึดทรัพยสินชาวกะเหรี่ยง อาทิ เคียว ขวานเงิน สรอยลูกปด กําไลขอมือ
บริเวณพุระกํา (ใจแผนดิน) และบางกลอยบน ครั้งที่ 5 วันที่ 23 - 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เผาและทําลายบาน
ยุงขาวชาวกะเหรี่ยง 21 หลัง ใน 14 จุด ยึดทรัพยสิน อาทิ มีด แห เคียว เกลือ ดนตรีชาวกะเหรี่ยง (เตหนา)
ครั้งที่ 6 วันที่ 11 - 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ปฏิบัติการของทหารนํามาสูเฮลิคอปเตอรตก จํานวน 1 ลํา
ในวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 และอีก 2 ลํา ตกตามมา ทําใหสูญเสียเจาหนาที่และนักขาว รวม 17 คน
ปจจุบัน พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ชาวบาน 20 ครอบครัว ประมาณ 100 คน ไดเดินเทาเขามาอยูกับญาติพี่นอง
ที่บานโปงลึก และบางกลอยลาง ตําบลหวยแมเพรียง อําเภอแกงกระจาน จังหวัดเพชรบุรี จึงรองเรียนตอ
กสม. วาเจาหนาที่อุทยานฯ รวมกับเจาหนาที่ทหารเขาทําลาย เผาที่พัก และผลักดันชาวกะเหรี่ยงออกนอก
พื้นที่อยูอาศัยและที่ทํากิน
หรือกรณีหนวยงานรัฐซึ่งไดรับแตงตั้งเปนพนักงานเจาหนาที่ตามกฎหมายปาไม และขออนุญาตใชพื้นที่
ปาแตมีชาวบานอาศัยทํากินอยูกอนแลวจึงฟองชาวบานขอหาบุกรุกปา ดังกรณีจันทเขลม
คํารองที่ 666/2553 เรื่อง สิทธิในการจัดการที่ดิน กรณีกองทัพเรือขับไลราษฎรออกจากที่ดิน
ในเขตรักษาพันธุสัตวปาเขาสอยดาว ผูรองคือนายวิทย สําเภา กับพวก ผูถูกรอง ไดแก กองทัพเรือ
ผูรองกับพวกรวม 45 ครอบครัวอยูอาศัยและทํากินอยูหมูที่ 7 ซอย 9 บานคลองชัน ตําบลจันทเขลม
อําเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรีซึ่งอยูใกลนํ้าตกในเขตรักษาพันธุสัตวปาเขาสอยดาวและเขตปาสงวน
จันตาแปะ - เขาวังแจง เปนบางสวน มาตั้งแตป 2514 ซึ่งกองทัพเรือไดรับอนุญาตจากกรมปาไมใชพื้นที่ใกลเคียง
เนื้อที่ 13,650 ไร เปนสถานที่ซอมอาวุธของทหาร และไดสํารวจราษฎรที่อยูในพื้นที่มากอนทั้งหมด พบวา
มีราษฎรที่อาศัยทํากินอยูในพื้นที่ จํานวน 181 ครอบครัว และตั้งแตป 2530 ไดจัดสรรที่ทํากินใหกับราษฎร
ที่ไดทํากินอยูในพื้นที่มากอน จํานวน 181 ครอบครัว ๆ ละ 15 ไร รวม 2,715 ไร ทางดานทิศใตของสนามฝก
แตกองทัพเรือมีปญหาแผนที่แนบทายหนังสืออนุญาตไมตรงกับพื้นที่กองทัพเรือใชจริงจึงขอปรับแผนที่
แตยังไมไดรับการพิจารณาจากกรมปาไม แตมีชาวบานจํานวนหนึ่งซึ่งอางวาอยูมาตั้งแตป 2512 ไมไดรับ
การจัดสรรที่ดิน ตอมากองทัพเรือแจงความจําเปนตองใชพื้นที่ฝกและซอมยิงปน จึงใหชาวบานออกชาวบาน
ไมออกอางไดรับยกเวนใหอยูตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2541 ซึ่งปจจุบันกรมปาไมไดออกสํารวจ
และกั้นแนวเขตตามมติคณะรัฐมนตรีฯ และแตละแปลงไดมีรหัสพิกัดบางสวนแลว จึงฟองคดีกับชาวบานขอหา
เขายึดถือครอบครองเขตรักษาพันธุสัตวปาโดยไมไดรับอนุญาต ป 2549 เจาหนาที่กองทัพเรือและเจาหนาที่ปาไม
แจงความตํารวจ ใหดําเนินคดีกับราษฎรที่บุกรุกที่ดินที่กองทัพเรือไดรับอนุญาต โดยเขาไปทําการปลูกสราง
สิ่งปลูกสรางและปลูกไมยืนตน รวมจํานวน 45 ครัวเรือน โดยไดติดปายประกาศเปนเขตทหารและออกหมาย
เรียกชาวบานกวา 50 ราย
ชาวบานขอใหมีการสํารวจพื้นที่ตามแผนที่ และพบวาพื้นที่ที่ทหารใชอยูปจจุบันไดรุกลํ้าขามเขตที่ไดรับ
อนุญาตไปประมาณ 2,000 ไร โดยยังไมรวมพื้นที่ที่ฟองคดีชาวบานบริเวณซอย 9 ตําบลจันทเขลม อีกจํานวน
714 ไร ทําใหเจาหนาที่ทหารไมสามารถเอาผิดและยึดพื้นที่ของชาวบานไดทําใหชาวบานในบริเวณดังกลาว
พนจากขอกลาวหา ตอมาเจาหนาที่กองทัพเรือฟองชาวบานเปนครั้งที่ 2 ขอหายึดถือ ครอบครอง กอสราง
128 รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข
นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”