Page 141 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 141
สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
National Human Rights Commission of Thailand
(3) ปญหาอํานาจในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ (ผูใชกฎหมาย) เนื่องจากบทบัญญัติของกฎหมาย
กําหนดใหพนักงานเจาหนาที่เทานั้นที่มีอํานาจ “จัดการ” ใด ๆ ในพื้นที่ปา ดังนั้นเมื่อเจาหนาที่ของหนวยงานปาไม
เปนผูรางกฎหมาย เปนผูใชบังคับกฎหมาย ติดตามการใชกฎหมาย และปรับปรุงแกไขกฎหมายกันเอง กระบวนการ
บริหารจัดการที่รวบอํานาจไวที่หนวยงานเดียวดังที่กลาวมานี้ ยอมทําใหกฎหมายที่บังคับใชมีลักษณะที่ไมโปรงใส
และไมเปนธรรมสูง
ผลของเนื้อหาในกฎหมายและผูใชกฎหมายที่มีลักษณะเชนนี้ จึงทําใหมีประชาชนจํานวนมากอยูอาศัย
ทํากินโดยผิดกฎหมายปาไม สถิติตัวเลขป พ.ศ. 2544 มีประชาชนประมาณ 4.6 แสนครัวเรือนหรือ 1 ใน 5
ของประชากรไทยตองอยูอาศัยทํากินโดยผิดกฎหมายปาไม
ทั้งนี้ แมวาชุมชนจะมีวิถีวัฒนธรรมและความเชื่อในการจัดการและใชประโยชนทรัพยากรธรรมชาติ
ในรูปแบบที่ไมกระทบกับระบบนิเวศทางธรรมชาติซึ่งก็เปนไปตามเจตนารมณของกฎหมาย แตก็ไมอาจดําเนินการ
ใด ๆ ได เพราะขัดกับบทบัญญัติของกฎหมาย เชน กรณีการดําเนินนโยบายโฉนดชุมชนที่จนถึงขณะนี้ก็ยังไมสามารถ
ดําเนินการไดโดยเฉพาะในพื้นที่ปาอนุรักษ เนื่องจากกรมอุทยานแหงชาติ สัตวปา และพันธุพืช กลาววา
เพราะกฎหมายปาไมไมไดเปดชองใหดําเนินการได โดยหากจะดําเนินการตามนโยบายดังกลาว ก็ตองเพิกถอนพื้นที่
ปาออกจากกฎหมายที่บังคับใชอยูเทานั้น ดังนั้น แมในบทบัญญัติของกฎหมายวาดวยปาไมจะมิไดปดกั้นการใชสิทธิ
ของชุมชนในการจัดการและใชประโยชนทรัพยากรธรรมชาติ แตก็มิไดเอื้ออํานวยตอการใชสิทธิของชุมชน
ดวยเชนกัน เนื่องจากกฎหมายกําหนดใหพนักงานเจาหนาที่เทานั้นที่มีอํานาจดําเนินการในพื้นที่ปาได จึงทําให
การใชสิทธิของชุมชนดังกลาวตองขึ้นอยูกับดุลพินิจในการบังคับใชกฎหมายของเจาหนาที่ผูมีอํานาจตามกฎหมาย
ซึ่งหากเจาหนาที่มีวิธีคิดที่ไมยอมรับสิทธิชุมชน ก็อาจจะบังคับใชกฎหมายในลักษณะที่ละเมิดสิทธิชุมชนได
เนื่องจากสิทธิชุมชนอันถือเปนสิทธิธรรมชาติที่ไมอาจถูกยกเลิกหรือขัดขวางไดจากรัฐ ทําใหในการ
ตรากฎหมาย การใชกฎหมาย และการตีความกฎหมายของรัฐ จึงควรถือเปนหนาที่ที่รัฐตองรับรองและคุมครองสิทธิ
ชุมชนใหมีสถานะที่เทาเทียมกับสิทธิและเสรีภาพในดานอื่น ๆ ดวย แตเนื่องจากบทบัญญัติของกฎหมายวาดวย
การปาไมเกิดขึ้นในชวงเวลาที่แนวคิดสิทธิชุมชนยังไมถูกยอมรับใหมีสถานะที่เทาเทียมกับสิทธิและเสรีภาพ
ดานอื่น ๆ ในรัฐ ประกอบกับแนวคิดในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติโดยรัฐเพียงหนวยเดียว ทําใหบทบัญญัติ
ของกฎหมายวาดวยการปาไมจึงไมมีบทบัญญัติใดที่กําหนดใหรัฐตองมีหนาที่อยางเครงครัดในการรับรอง
และคุมครองสิทธิของชุมชนใหเทาเทียมกับการทําหนาที่ในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติในฐานะที่เปนสมบัติ
ของรัฐ แมกฎหมายจะมิไดมีบทบัญญัติใดที่ปดกั้นการใชสิทธิของชุมชนอยางสิ้นเชิง แตก็ยังไมเอื้ออํานวยให
การใชสิทธิในการจัดการและใชประโยชนทรัพยากรธรรมชาติของชุมชนมีไดอยางเพียงพอและยั่งยืน ซึ่งอาจทําให
สถานการณปญหาการละเมิดสิทธิชุมชนอาจกลับมามีความรุนแรงไดอีกครั้ง
120 รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข
นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”