Page 148 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 148
146 ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
ส่วนที่ ๓ ข้อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการอนุวัติ
กฎหมายภายใน ให้เป็นไปตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน และการ
ประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำายีศักดิ์ศรี
(CAT) และเพื่อเตรียมการรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของ
อนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ (OPCAT) รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศ
ว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย (CED)
จากการศึกษาข้างต้น คณะอนุกรรมการด้านเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุง
กฎหมาย และกฎ เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน พิจารณาแล้วเห็นควรมีข้อเสนอแนะนโยบาย
และข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายต่อการอนุวัติกฎหมายภายในให้เป็นไปตามอนุสัญญาต่อต้าน
การทรมานฯ เพื่อเตรียมรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ
รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย ดังนี้
๓.๑ ข้อเสนอแนะนโยบาย
๓.๑.๑ คณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงยุติธรรม (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) กระทรวง
การต่างประเทศ ควรมีกรอบเวลาที่ชัดเจนในการเสนอร่างกฎหมายภายในให้สอดคล้องตาม
อนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ ควรมีกลไกสร้างความเข้าใจแก่เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติ
ตามร่างกฎหมายดังกล่าว รวมทั้งมีแผนที่ชัดเจนในการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญา
ต่อต้านการทรมานฯ
๓.๑.๒ คณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงกลาโหม สำานักนายกรัฐมนตรี (สำานักงานสภา
ความมั่นคงแห่งชาติ) และหน่วยงานความมั่นคง สมควรทบทวนกฎหมายพิเศษด้านความมั่นคง
และการบังคับใช้ เนื่องจากกฎหมายเหล่านี้เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่รัฐอาจใช้อำานาจเกินกว่าเหตุ เช่น
การควบคุมตัว และทำาให้ผู้ถูกกล่าวหา ผู้ด้อยโอกาสในสังคมมีโอกาสถูกเจ้าหน้าที่รัฐทำาร้าย หรือได้รับ
การปฏิบัติไม่เหมาะสมหรือไม่เป็นธรรม ดังนั้น ในการใช้กฎหมายพิเศษด้านมั่นคง โดยเฉพาะในกรณี
การสลายการชุมนุม รวมถึงการชุมนุมทางการเมือง กรณีเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ ซึ่งไม่ใช่สงครามหรือ
การรบด้วยกำาลังอาวุธ ควรมอบหมายเจ้าหน้าที่ตำารวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐอื่นใดที่ได้รับการฝึกฝนใน
เรื่องนี้มาโดยเฉพาะ เป็นผู้บังคับใช้กฎหมายดังกล่าว