Page 147 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 147
145
ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
หรือมอบหมายหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งโดยเฉพาะ รับผิดชอบการคุ้มครองบุคคลมิให้ถูกบังคับ
ให้สูญหายควบคู่กับการต่อต้านการทรมาน รวมทั้งให้จัดสรรทรัพยากรบุคคลและงบประมาณแก่
หน่วยงานดังกล่าวอย่างเพียงพออีกประการหนึ่ง การกำาหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการติดตาม
ผู้สูญหายโดยถูกบังคับตามร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองบุคคลจากการสูญหายโดยถูกบังคับ พ.ศ. ....
(ฉบับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) ควรคำานึงถึงสัดส่วนของผู้แทนจากองค์กรพัฒนาเอกชนด้วย
๒.๔.๒ คณะอนุกรรมการฯ เห็นว่าการอนุวัติกฎหมายภายใน ควรกำาหนดเป็น
กฎหมายเฉพาะ เพื่อให้การคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหายมีกลไกการดำาเนินงานที่มี
ประสิทธิภาพและถ่วงดุล ไม่ควรใช้การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีตำารวจเป็นผู้บังคับใช้
กฎหมาย อันอาจไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง หรือไม่อาจอธิบายให้สังคมหายเคลือบแคลงเกี่ยวกับการ
ให้ความคุ้มครองบุคคลจากการถูกบังคับให้สูญหาย เนื่องจากผู้กระทำาผิดและผู้สอบสวนเป็นตำารวจ
ด้วยกัน การใช้กลไกปกติ ได้แก่ ตำารวจหรือเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ สอบสวนผู้กระทำาผิด
ฐานบังคับให้บุคคลสูญหายอาจถูกกล่าวหาว่าไม่น่าเชื่อถือและไม่เป็นธรรม จึงควรใช้การคานหรือ
ถ่วงดุลอำานาจจากพนักงานสอบสวน เช่น พนักงานอัยการ ซึ่งทำาหน้าที่ฟ้องผู้ต้องหาต่อศาล เป็นต้น
๒.๔.๓ การที่บุคคลถูกบังคับให้สูญหายนี้เป็นปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมที่เป็น
อุปสรรคต่อการเข้าถึงความเป็นธรรมของประชาชน ซึ่งอาจเกิดจากบทกฎหมาย หรือการบังคับใช้
และเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาและประมวลกฎหมายวิธี
พิจารณาความอาญาอาจไม่ครอบคลุมกฎหมายอื่น เช่น พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒
กรณีการส่งตัวคนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งต้องไม่ส่งกลับ หากมีเหตุผลเพียงพอ
ที่เชื่อได้ว่า ผู้นั้นจะอยู่ในอันตรายจากการถูกบังคับให้สูญหาย ฯลฯ นอกจากนี้ การตั้งหน่วยงานใหม่
เพื่อรับผิดชอบงานด้านนี้โดยเฉพาะ ควรคำานึงถึงการถ่วงดุลและความเป็นกลางด้วย