Page 150 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 150
148 ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
มีบทบาทในการทำาหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลอำานาจสืบสวนสอบสวนของพนักงานสอบสวน เพื่อการ
คุ้มครองบุคคลที่ถูกกระทำาการทรมาน หรือบุคคลที่ถูกบังคับให้สูญหาย
๓.๑.๙ ศาลยุติธรรม สมควรเผยแพร่ความรู้และสร้างความเข้าใจแก่ผู้พิพากษาและ
เจ้าหน้าที่กระบวนการยุติธรรมในสังกัด เช่นเดียวกัน คณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงยุติธรรม (กรม
สอบสวนคดีพิเศษ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมราชทัณฑ์) สำานักงานตำารวจแห่งชาติ กระทรวง
มหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำานักงานอัยการสูงสุด สมควร
เผยแพร่ความรู้และสร้างความเข้าใจแก่เจ้าหน้าที่กระบวนการยุติธรรมและเจ้าหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้อง
ในสังกัด เกี่ยวกับอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย รวมถึง
พิจารณาขอบเขตอำานาจหน้าที่ของตน และความเชื่อมโยงกับอำานาจหน้าที่ของหน่วยงานอื่นใน
การคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหายตามอนุสัญญาระหว่างประเทศนี้ นับแต่การสอบสวน
และดำาเนินคดีความผิดฐานการบังคับให้บุคคลสูญหาย บันทึกข้อมูลผู้ถูกคุมขังระหว่างควบคุมตัวใน
สถานคุมขัง การคุ้มครองเด็กเนื่องจากการบังคับให้บุคคลสูญหาย การส่งผู้ร้ายข้ามแดน การชดเชย
ค่าเสียหายหรือฟื้นฟูเยียวยา
๓.๒ ข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย
๓.๒.๑ คณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงยุติธรรม (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) สมควร
เสนอกฎหมายโดยเฉพาะในเรื่องนี้ โดยให้มีมาตรการและมาตรฐานขั้นต่ำาสอดคล้องตามอนุสัญญา
ต่อต้านการทรมานฯ ได้แก่ คำานิยามการทรมาน ตามข้อ ๑ ของอนุสัญญาฯ ตลอดจนการกระทำาอื่น
ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือการประติบัติ หรือการลงโทษที่ย่ำายีศักดิ์ศรี ตามข้อ ๑๖ ของอนุสัญญาฯ
รวมทั้งกำาหนดให้มีกลไกรองรับการปฏิบัติตามอนุสัญญา ซึ่งจะเกิดประสิทธิภาพและมีผลบังคับใช้
ได้จริง โดยที่การกระทำาความผิดฐานทรมานเป็นการกระทำาของเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือตำารวจ จึงควรมี
หลักประกันว่าเมื่อมีมูลเหตุเชื่อได้ว่า มีการกระทำาทรมานจะมีการสืบสวนโดยพลัน และโดยไม่ลำาเอียง
ซึ่งอาจมีหน่วยงานอิสระ หรือพนักงานอัยการทำาหน้าที่ดังกล่าว ขณะเดียวกันก็ควรมีหลักประกันว่า
ผู้ถูกทำาทรมานจะได้รับการชดเชยได้รับค่าสินไหมทดแทนที่เป็นธรรมและเพียงพอ ได้รับการบำาบัด
ฟื้นฟูเต็มรูปแบบเท่าที่เป็นได้
อย่างไรก็ตาม หากคณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงยุติธรรม (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ)
เห็นควรใช้แนวทางแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ
อาญา ควรทบทวนนิยามคำาว่าการทรมานให้ครอบคลุมความหมายตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ
และเมื่อมีมูลเหตุเชื่อได้ว่ามีกระทำาทรมานเกิดขึ้นโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ การสอบสวนคดีการทรมาน
ควรมีระบบตรวจสอบและถ่วงดุล โดยให้พนักงานอัยการมีบทบาทหลักในการสืบสวน สอบสวน
รวมทั้งควรแก้ไขกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน
และค่าใช้จ่ายแก่จำาเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ ให้ครอบคลุมกระบวนการชดเชย เยียวยา บำาบัดฟื้นฟู