Page 31 - โครงการศึกษาวิจัย เรื่อง สิทธิชุมชนและผลกระทบโครงการพัฒนาภาคใต้
P. 31

๑๗







                                สิทธิในการสื่อสาร นับเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานในอันที่จะช่วยให้บุคคลและชุมชน
                  สามารถเลือกที่จะคิดและเชื่อในเรื่องศาสนา การเมือง เศรษฐกิจ แบบอย่างการดําเนินชีวิต การรักษา

                  เอกลักษณ์และความหลากหลายทางภาษาและศิลปวัฒนธรรม ฯลฯ ทั้งยังเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิอัน

                  ชอบธรรมที่จะดํารงความเชื่อของตนไว้ด้วยการสื่อสารถ่ายทอดความคิดความเชื่อของตนออกไป ซึ่งย่อม
                  หมายความว่าต้องเข้าถึงทรัพยากรด้านการสื่อสารได้อย่างเสมอภาค คือมีสิทธิเข้าถึง มีความรู้

                  ความสามารถในการใช้ และมีโอกาสทางเศรษฐกิจเท่าเทียมกันที่จะใช้สื่อทั้งหลายเพื่อแสดงและยืนยัน

                  ความคิดเห็นของตน หรือโต้แย้งแสดงเหตุผลกับฝ่ายที่เห็นแตกต่าง



                         ๓.๒.๖  สิทธิการชุมนุมโดยสงบ


                                แม้ว่าการชุมนุมจะเป็นวิธีการหนึ่งในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็น ความต้องการ หรือ

                  จุดยืนในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของสิทธิในการสื่อสารและเป็นรูปแบบหนึ่งของเสรีภาพในการ
                  แสดงความเห็น แต่โดยเนื้อหาแล้วสิทธิการชุมนุมเป็นรูปแบบการแสดงออกที่เข้มข้นและมีนัยทาง

                  การเมืองสูง สิทธินี้จึงได้การระบุแยกออกมาเฉพาะเจาะจง ทั้งในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่ง

                  สหประชาชาติและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง โดยในส่วนของ
                  ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UDHR)  กําหนดให้มีการรับรองทั้งเสรีภาพใน

                  การชุมนุมและการสมาคมโดยสงบ ขณะเดียวกันก็ให้การคุ้มครองมิให้บุคคลต้องถูกบังคับเพื่อการ

                  ดังกล่าว ส่วนในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) มีการกําหนด
                  เพิ่มเติมในส่วนของเงื่อนไขที่จะจํากัดตัดทอนการใช้สิทธินี้ในกรณีที่มีข้อกฎหมายและมีความจําเป็นเพื่อ

                  ผลประโยชน์ทางความมั่นคงของชาติหรือความปลอดภัยสาธารณะ ความสงบเรียบร้อย การสาธารณสุข

                  หรือศีลธรรม หรือการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น



                  ๓.๓  สิทธิมนุษยชนตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐

                         ที่เกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาภาคใต้


                         ๓.๓.๑  บทบัญญัติเกี่ยวกับสิทธิในการกําหนดอนาคตและเจตจํานงของตนเอง

                                และสิทธิในการพัฒนา

                                รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ไม่มีบทบัญญัติโดยตรงด้าน

                  สิทธิในการกําหนดอนาคตและเจตจํานงของตนเองและสิทธิในการพัฒนา แต่สิทธิเหล่านี้ได้รับการ

                  รับรองผนวกไว้กับสิทธิด้านอื่น ๆ ในมาตราต่าง ๆ ของรัฐธรรมนูญ ดังต่อไปนี้
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36