Page 162 - โครงการศึกษาวิจัย เรื่อง สิทธิชุมชนและผลกระทบโครงการพัฒนาภาคใต้
P. 162

๑๔๘







                               (๓) ต้องจัดให้มีการสํารวจ และศึกษาพื้นที่คุ้มครองเฉพาะ เพื่อประกาศ
                  ให้เป็นเขตอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในระดับภูมินิเวศ โดยเฉพาะพื้นที่ปลาวางไข่ พื้นที่

                  สัตว์น้ําหายาก แหล่งปะการัง แหล่งหญ้าทะเล พื้นที่ที่มีความหลากหลายของทรัพยากร ซึ่งถือเป็นแหล่ง

                  ผลิตอาหารทางทะเลที่สําคัญของจังหวัดสตูล

                               (๔) ส่งเสริมให้มีการการจัดตั้งเครือข่ายองค์กรชุมชนประมงพื้นบ้าน

                  และสนับสนุนกลุ่มเหล่านั้นให้ดูแล รักษา และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เช่น การทํา
                  ธนาคารปูไข่ ธนาคารกั้ง แหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ํา บ้านปลา และส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสม เพื่อเสริมสร้าง

                  รายได้ให้แก่กลุ่มองค์กรชาวประมงพื้นบ้าน

                               (๕) สนับสนุนการท่องเที่ยวโดยชุมชน นํารูปแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชน

                  มาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาชุมชน พัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวภายใต้ศักยภาพเชิงธรรมชาติที่มีอยู่

                  และพัฒนาศักยภาพชุมชนสู่การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างต่อเนื่อง

                               (๖) ส่งเสริมการศึกษาทางเลือก โดยจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการวิจัย

                  และเน้นการเรียนรู้ด้วยตนเองโดยมีนักเรียนเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง




                         ๖.๒.๒  ข้อเสนอแนะของผู้วิจัย

                                ๑)  ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย


                             ๑.๑) ควรผลักดันให้มีการทบทวนแผนพัฒนาภาคใต้ จากผลการศึกษาพบว่า
                  โครงการต่าง ๆ ของแผนพัฒนาภาคใต้ยังถูกขับเคลื่อนและผลักดันจากทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนอยู่

                  ตลอดเวลา แต่การชี้แจงโครงการต่อชุมชนไม่ชัดเจน การจัดทํากระบวนการมีส่วนร่วมและการจัดรับฟัง

                  ความคิดเห็นเพื่อพิจารณาโครงการแทบจะไม่ค่อยได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติเรื่องสิทธิชุมชนและบทบัญญัติ
                  อื่น ๆ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐  ชุมชนและภาคประชาสังคมมีความ

                  กังวลว่าแผนพัฒนาภาคใต้จะมีแนวโน้มก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิชุมชนและสร้างความขัดแย้งในภาคใต้ที่

                  รุนแรงมากขึ้น จึงควรมีการทบทวนยุทธศาสตร์และทิศทางของแผนพัฒนาภาคใต้ โดยให้ชุมชนมีส่วน
                  ร่วมในการพิจารณากําหนดอย่างแท้จริง


                             ๑.๒) ควรผลักดันให้เกิดการปฏิรูประบบในการจัดทํารายงานการประเมิน
                  ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และรายงานการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (EHIA)

                  จากกรณีศึกษาของงานวิจัย พบว่า ในหลายกรณีการจัดทํารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม

                  และรายงานการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม มักจะใช้ข้อมูลทุติยภูมิ และไม่ได้
   157   158   159   160   161   162   163   164   165   166   167