Page 84 - การอนุวัติกฎหมายไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีและเพื่อเตรียมรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย
P. 84
๓.๑.๒ คณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงกลาโหม สำานักนายก-
รัฐมนตรี (สำานักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ) และหน่วยงานความ
มั่นคง สมควรทบทวนกฎหมายพิเศษด้านความมั่นคงและการบังคับใช้
เนื่องจากกฎหมายเหล่านี้เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่รัฐอาจใช้อำานาจเกิน
กว่าเหตุ เช่น การควบคุมตัว และทำาให้ผู้ถูกกล่าวหา ผู้ด้อยโอกาสในสังคม
มีโอกาสถูกเจ้าหน้าที่รัฐทำาร้าย หรือได้รับการปฏิบัติไม่เหมาะสมหรือ
ไม่เป็นธรรม ดังนั้น ในการใช้กฎหมายพิเศษด้านมั่นคง โดยเฉพาะในกรณี
การสลายการชุมนุม รวมถึงการชุมนุมทางการเมือง กรณีเกิดเหตุการณ์
ไม่สงบ ซึ่งไม่ใช่สงครามหรือการรบด้วยกำาลังอาวุธ ควรมอบหมาย
เจ้าหน้าที่ตำารวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐอื่นใดที่ได้รับการฝึกฝนในเรื่องนี้มา
โดยเฉพาะ เป็นผู้บังคับใช้กฎหมายดังกล่าว
๓.๑.๓ คณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงยุติธรรม (กรมคุ้มครองสิทธิ
และเสรีภาพ) สำานักงานตำารวจแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม กระทรวง
ศึกษาธิการ (สำานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา) และหน่วยงาน
อื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสำานักงานอัยการสูงสุด สำานักงานศาลยุติธรรม
และแพทยสภา สมควรสอดแทรกเรื่องสิทธิมนุษยชน รวมถึงการป้องกัน
และคุ้มครองบุคคลจากการถูกกระทำาทรมานไว้ในหลักสูตรการเรียน
วิชานิติศาสตร์ การฝึกอบรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่บังคับใช้กฎหมาย
ด้านกระบวนการยุติธรรม รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
ตำารวจ แพทย์ อัยการ ตุลาการ ราชทัณฑ์ ทหาร ฯลฯ หลักสูตรดังกล่าว
เช่น หลักสูตรฝึกอบรมวิทยากรและหลักสูตรเผยแพร่หลักการและการ
ปฏิบัติตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ
๓.๑.๔ คณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงยุติธรรม (กรมคุ้มครองสิทธิ
และเสรีภาพ กรมราชทัณฑ์) สำานักงานตำารวจแห่งชาติ กระทรวง
82 การอนุวัติกฎหมายไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม
หรือที่ย่ำายีศักดิ์ศรี และเพื่อเตรียมรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ
รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย

