Page 79 - การอนุวัติกฎหมายไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีและเพื่อเตรียมรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย
P. 79
๒.๓.๕ พระราชบัญญัติคุ้มครองพยาน พ.ศ. ๒๕๔๖
มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้
“พยาน” หมายความว่า พยานบุคคลซึ่งจะมาให้หรือได้ให้
ข้อเท็จจริงต่อพนักงานผู้มีอำานาจสืบสวนคดีอาญา พนักงานผู้มีอำานาจ
สอบสวนคดีอาญา พนักงานผู้มีอำานาจฟ้องคดีอาญา หรือศาลในการ
ดำาเนินคดีอาญา รวมทั้งผู้ชำานาญการพิเศษ แต่มิให้หมายความรวมถึง
จำาเลยที่อ้างตนเองเป็นพยาน
มาตรา ๗ ในกรณีที่สามี ภริยา ผู้บุพการี ผู้สืบสันดานของพยาน
หรือบุคคลอื่นที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพยาน ซึ่งมีผลต่อการที่พยานจะ
มาเป็นพยานอาจไม่ได้รับความปลอดภัยและพยานได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่
ที่เกี่ยวข้องพิจารณานำามาตรการทั่วไปในการคุ้มครองพยานมาใช้บังคับ
แก่บุคคลดังกล่าว...
มาตรา ๘ พยานในคดีอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ อาจได้รับ
การคุ้มครองตามมาตรการพิเศษได้
(๑) คดีความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด ....
(๒) คดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
ตามประมวลกฎหมายอาญา
(๓) คดีความผิดเกี่ยวกับเพศตามประมวลกฎหมายอาญา
.......
(๔) คดีความผิดเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรม ........
่
(๕) คดีความผิดที่มีอัตราโทษอย่างตำาให้จำาคุกตั้งแต่สิบปี
ขึ้นไป หรือโทษสถานที่หนักกว่านั้น
(๖) คดีซึ่งสำานักงานคุ้มครองพยานเห็นสมควรให้ความ
คุ้มครองพยาน
การอนุวัติกฎหมายไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม 77
หรือที่ย่ำายีศักดิ์ศรี และเพื่อเตรียมรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ
รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย