Page 100 - รายงานโครงการศึกษา เรื่อง การจัดทำตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนเบื้องต้นตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
P. 100
99
รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง
การจัดทำาตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนเบื้องต้นตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
๔.๒ การพัฒนาตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนของต่างประเทศ
เหตุผลในการเลือกศึกษาของสหราชอาณาจักร สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ และสาธารณรัฐ
ฟิลิปปินส์ อยู่บนแนวคิดว่าการเปรียบเทียบการจัดทำาตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชน ควรพิจารณาประเทศที่อยู่
ในภูมิภาคเดียวกันและมีความคล้ายคลึงกับประเทศไทยในด้านสภาพเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม
ซึ่งควรจะใช้ประเทศในกลุ่มอาเซียน อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาเบื้องต้น คณะผู้ศึกษาพบว่า
ประเทศเหล่านี้ยังไม่ได้ริเริ่มจัดทำาตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชน นอกจากนั้น เอกสารการรายงานสถานการณ์
สิทธิมนุษยชนของแต่ละประเทศก็จัดทำาด้วยภาษาประจำาชาติ ซึ่งยากต่อการเข้าถึงเอกสารเหล่านั้น
ดังนั้น ในการศึกษาครั้งนี้คณะผู้ศึกษามีความเห็นว่า หลักในการเลือกประเทศที่ใช้ศึกษา
เปรียบเทียบควรพิจารณาจากระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และระดับปัญหา
สิทธิมนุษยชนและการเข้าถึงเอกสารเป็นสำาคัญ ซึ่งแบ่งเป็นสองระดับ คือ
หนึ่ง ประเทศที่มีระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และระดับปัญหา
สิทธิมนุษยชนคล้ายคลึงกับประเทศไทย โดยเลือกการจัดทำาตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชน
ของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ และสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ มาศึกษาเปรียบเทียบ
สอง ประเทศที่มีระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ก้าวหน้ากว่าประเทศไทย
และมีระบบการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่ก้าวหน้าและซับซ้อนมากขึ้น คณะผู้ศึกษา
ได้เลือกสหราชอาณาจักรเป็นตัวแบบในการเปรียบเทียบ การที่เลือกเปรียบเทียบกับ
ประเทศที่มีระบบการคุ้มครองที่มีความก้าวหน้ามากกว่าประเทศไทยอยู่บนแนวคิดที่ว่า
รูปแบบที่ศึกษาจะช่วยเป็นแนวทางหรือแบบอย่างในการนำามาปรับใช้ให้เข้ากับ
สภาพสังคมไทย เพื่อให้การปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
๔.๒.๑ สหราชอาณาจักร
สหราชอาณาจักรเป็นประเทศหนึ่งที่ให้ความสำาคัญกับการส่งเสริม และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
การทำาความเข้าใจกับลักษณะเฉพาะของระบบการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของสหราชอาณาจักร
เป็นปัจจัยสำาคัญที่จะช่วยให้เข้าใจ และนำาตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนไปใช้ได้อย่างเหมาะสม ๒๑๐
จากการศึกษาวิจัยเชิงเอกสาร การเฝ้าสังเกต และติดตามสถานการณ์การส่งเสริมและคุ้มครอง
สิทธิมนุษยชนของสหราชอาณาจักรพบว่า ในช่วงกว่าสองทศวรรษมานี้ ผู้กำาหนดนโยบายและฝ่ายการเมือง
ของสหราชอาณาจักรให้ความสำาคัญ และมีความพยายามในเชิงรุกที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
อย่างมีนัยสำาคัญในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นนโยบายสาธารณะที่สำาคัญ
และเป็นเสาหลักของชาติ ดังจะเห็นได้จากการผลักดันให้มีพระราชบัญญัติสิทธิมนุษยชน พ.ศ. ๒๕๔๑
(Human Rights Act 1998) ขึ้น ๒๑๑
๒๑๐ Jean Candler, Sanchita Hosali, Tiffany Tsang and Polly Vizard, Developing a Human Rights Measurement
Framework (HRMF), Background Briefing Paper for specialist consultation on the human rights measurement
framework (HRMF), 2010. (online) http://personal.lse.ac.uk/prechr/hrmf/HRMF_background.pdf
๒๑๑ ibid.