Page 103 - ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงครามและข้อเสนอในการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
P. 103

ข้อเสนอแนะต่อท่าทีที่เหมาะสมของประเทศไทย


                            จากการศึกษาวิจัยเอกสาร การวิจัยภาคสนาม การจัดสนทนากลุ่ม การประชุมร่วมกับหน่วยงาน
                     ของรัฐ และองค์กรพัฒนาเอกชนด้านผู้ลี้ภัย ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะต่อท่าทีที่เหมาะสมของประเทศไทย ดังนี้

                            ๑.  ประเทศไทยควรเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ค.ศ. ๑๙๕๑  และควร
                                บัญญัติกฎหมายภายในว่าด้วยเรื่องผู้ลี้ภัย ซึ่งจะทำาให้ประเทศไทยมีกรอบที่ชัดเจนในการ

                                ปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนต่อผู้ลี้ภัย และเป็นไปตามข้อเสนอแนะที่ประเทศไทยได้รับ
                                หลังจากการนำาเสนอรายงานประเทศต่อที่ประชุมคณะทำางาน Universal Periodic Review

                                (UPR) ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
                            ๒.  ประเทศไทยควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ให้สอดคล้องกับ

                                สิทธิในการขอลี้ภัยและหลักการไม่ส่งผู้ลี้ภัยกลับไปสู่อันตราย
                            ๓.  นโยบายการส่งบุคคลออกนอกประเทศของประเทศไทยนั้นต้องสอดคล้องกับหลักการไม่ส่ง

                                ผู้ลี้ภัยกลับไปสู่อันตราย ไม่ว่าจะเป็นกรณีการส่งผู้ลี้ภัยการสู้รบจากพม่าหรือประเทศอื่นๆ
                                โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องจัดทำารายงานการประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยใน

                                พื้นที่ที่ผู้ลี้ภัยหรือหนีภัยการสู้รบจะกลับไปอย่างรอบด้าน
                            ๔.  ประเทศไทยควรพัฒนาการปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยในค่ายให้ดีขึ้น  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องการจัด

                                การศึกษา การบริการสุขภาพ ชีวิตความเป็นอยู่ และสิทธิในการทำางาน
                            ๕.  ประเทศไทยจะส่งผู้ลี้ภัยกลับประเทศต้นทาง ต่อเมื่อประเทศต้นทางนั้นปลอดภัยสำาหรับ

                                ผู้ลี้ภัย ทั้งในแง่ภัยจากการสู้รบ และกับระเบิด  อีกทั้ง ประเทศต้นทางมีความพร้อมในด้าน
                                ระบบโครงสร้างพื้นฐาน  การบริการด้านต่างๆ เช่น การศึกษา การบริการสุขภาพ สวัสดิการ

                                และมีการจัดเตรียมกลไกเพื่อการรักษาสันติภาพที่เหมาะสม
                            ๖.  รัฐบาลไทยควรเข้ามามีบทบาทในการเตรียมความพร้อมให้ผู้ลี้ภัยก่อนการเดินทางกลับ

                                โดยจัดโครงการต่างๆ เช่น การพัฒนาศักยภาพผู้ลี้ภัย  การระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี
                            ๗.  หากผู้ลี้ภัยหรือหนีภัยการสู้รบตัดสินใจเดินทางกลับมาตุภูมิเดิมด้วยความสมัครใจ  รัฐบาล

                                ไทยควรเชิญหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนเข้าเป็นสักขีพยานในการเดินทางกลับ  อีกทั้ง
                                องค์การที่เป็นสักขีพยานเหล่านั้น อาจพิสูจน์ความสมัครใจในการเดินทางกลับของผู้ลี้ภัย

                                เหล่านั้น  อย่างไรก็จะต้องคำานึงถึงประกันความปลอดภัยและการเดินทางกลับอย่างมี
                                ศักดิ์ศรีในดินแดนนั้น

                            ๘.  ในทางกลับกันหากไม่สามารถดำาเนินการส่งกลับมาตุภูมิเดิมด้วยความสมัครใจได้  รัฐบาล
                                ไทยควรพิจารณาให้สิทธิอาศัยอยู่ชั่วคราวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อรอการส่งกลับพม่า

                                เมื่อสถานการณ์ภายในพม่ามีความปลอดภัย ซึ่งสามารถกระทำาได้ภายใต้พระราชบัญญัติ
                                คนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๗ กล่าวคือ ให้อำานาจรัฐมนตรีโดยการอนุมัติของ

                                คณะรัฐมนตรีเป็นกรณีพิเศษเฉพาะเรื่องที่จะให้คนต่างด้าวผู้ใดอยู่ในประเทศไทยอย่างถูก




                                                                                                           


                                      ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงคราม  และข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ. คนเข้าเมือง  พ.ศ. ๒๕๒๒
   98   99   100   101   102   103   104   105   106   107   108