Page 570 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 570
่
ไม่ต่างจากเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในฝายคณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ส่วนกลาง คือ ท าหน้าที่
่
เป็น “พนักงานผู้รับผิดชอบส านวน” และเป็น “ฝายเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์
ภูมิภาค”
-คณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ภูมิภาคจะท าหน้าที่ทั้งในงานของระบบ
ร้องทุกข์ในเรื่องการรับเรื่องร้องทุกข์ การติดตามผลการปฏิบัติตามค าวินิจฉัยร้องทุกข์ของ
หน่วยงานต่างๆ และงานวิเคราะห์เหตุแห่งการร้องทุกข์ และยังท าหน้าที่ในงานบริหารส านักงาน
ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคอีกด้วย
(4.1) จุดแข็ง/จุดเด่น
-นอกจากคณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ซึ่งปฏิบัติงานในส่วนกลาง แต่มี
ขอบเขตอ านาจหน้าที่พิจารณาเรื่องร้องทุกข์ได้ทั่วราชอาณาจักรแล้ว ยังมีคณะกรรมการวินิจฉัย
ร้องทุกข์ภูมิภาคซึ่งมีขอบเขตอ านาจหน้าที่ในท้องถิ่นต่างๆ ที่จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการวินิจฉัย
ร้องทุกข์ภูมิภาคเพื่ออ านวยความสะดวกแก่ประชาชนในท้องที่นั้นๆด้วย
-ค าสั่งทางปกครองของเจ้าหน้าที่ไปปฏิบัติงานในต่างจังหวัดจะยึดถือ
ระเบียบปฏิบัติที่ก าหนดโดยส่วนกลาง ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จึงเป็นการพิจารณาว่าค าสั่ง
หรือระเบียบที่ก าหนดโดยส่วนกลางชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อีกประการหนึ่งประชาชนผู้ร้อง
ทุกข์ไม่ว่าจะอยู่ในท้องที่ใดก็สามารถยื่นค าร้องทุกข์ทางไปรษณีย์ และโต้แย้งหรือเสนอหลักฐาน
ต่างๆ ทางไปรษณีย์ได้แต่ไม่ตัดสิทธิที่จะมาให้ข้อเท็จจริงกับกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์
-ประชาชนสามารถยื่นร้องเรียนได้หลายช่องทาง เช่น ยื่น ณ หน่วยงาน
ธุรการของคณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์หรือจะยื่นต่อกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ภูมิภาคคนหนึ่ง
คนใด หรือผู้ว่าราชการจังหวัด นายอ าเภอ ก านัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือส่งค าร้องทางไปรษณีย์ไปยัง
ส านักงานกฤษฎีกา โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม
-ผู้ร้องทุกข์ยืนเรื่องเองหรือมอบฉันทะให้ผู้อื่นร้องทุกข์แทนได้ เช่น ใน
่
กรณี ผู้ร้องไม่สามารถเขียนหนังสือได้, ผู้ร้องเจ็บปวยไม่สามารถร้องทุกข์ด้วยตนเองได้, ผู้ร้องอยู่
ต่างประเทศ, ผู้ร้องทุกข์เป็นผู้เยาว์ ฯลฯ และ นอกจากนี้ บุคคลต่างด้าวก็สามารถร้องทุกข์ได้ด้วย
เช่นกัน แต่มีข้อแม้ว่าต้องร้องทุกข์เป็นภาษาไทย
-ผู้ร้องทุกข์สามารถขอให้ปกปิดชื่อเป็นความลับได้
- 464 -

