Page 211 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 211
5.2.8 การพิจารณารับค าร้อง
ภายหลังที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้รับค าร้องเป็นหนังสือหรือการร้องเรียน
ทางวาจาจากบุคคลผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือจากองค์การเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนและ
คณะกรรมการจะพิจารณาและตรวจสอบค าร้องหรือการร้องเรียนในเบื้องต้นว่ามีลักษณะเป็นการ
ละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ผลจากการพิจารณาเบื้องต้นแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ
1. พิจารณาแล้วเห็นว่าค าร้องหรือการร้องเรียนนั้นอยู่นอกอ านาจหน้าที่หรือ
คณะกรรมการไม่รับพิจารณา คณะกรรมการจะแจ้งให้ผู้ร้องหรือองค์การเอกชนด้านสิทธิมนุษยชน
ที่ส่งเรื่องมาได้ทราบ และหากคณะกรรมการเห็นสมควรเพื่อเป็นประโยชน์แก่การคุ้มครองสิทธิ
มนุษยชนจะส่งเรื่องต่อไปให้บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด าเนินการแก้ไขก็ได้
2. กรณีที่พิจารณาแล้วเห็นว่าตามค าร้องหรือการร้องเรียนนั้นมีมูลและอยู่ใน
อ านาจหน้าที่ของคณะกรรมการ คณะกรรมการจะแจ้งไปยังบุคคลหรือหน่วยงานที่ถูกอ้างว่าเป็นผู้
ละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพื่อด าเนินการชี้แจงข้อเท็จจริง
ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการ
กระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนจะเริ่มต้นขึ้นภายหลังจากการพิจารณา
ในเบื้องต้นของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งเห็นว่าตามค าร้องหรือการร้องเรียนที่
ได้รับนั้นมีมูลและอยู่ในอ านาจหน้าที่ของตนคณะกรรมการจะด าเนินการแจ้งให้บุคคลหรือ
หน่วยงานดังกล่าวชี้แจง แต่ถ้าปรากฏว่าไม่มีการชี้แจงข้อเท็จจริงภายในระยะเวลาที่ก าหนดไว้
คณะกรรมการจะเริ่มกระบวนการตรวจสอบตามล าดับขั้นตอนต่างๆ ต่อไป
หรือเมื่อมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้นไม่ว่าจะเกิดจากการกระท าหรือการละเลยการ
กระท าก็ตาม การที่จะร้องขอต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติให้มีการตรวจสอบการ
กระท าดังกล่าวหรือร้องขอให้มีการช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นได้นั้น
พระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 22 ก าหนดให้การ
้
ตรวจสอบจะท าได้ต่อเมื่อมิใช่เป็นเรื่องที่มีการฟองร้องเป็นคดีกันอยู่ในศาลหรือศาลพิพากษาหรือ
มีค าสั่งเด็ดขาดแล้ว กล่าวคือ หากมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้น ถ้าเป็น
้
เรื่องที่มีการยื่นฟองร้องกันอยู่แล้วหรืออยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล ทั้งนี้ไม่ว่าจะอยู่ใน
ระบบศาลยุติธรรมหรือระบบศาลปกครองก็ตาม ย่อมไม่อยู่ในอ านาจหน้าที่องค์คณะกรรมการสิทธิ
มนุษยชนแห่งชาติที่จะท าการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนดังกล่าวได้ ถึงแม้จะมีการยื่น
เรื่องต่อคณะกรรมการฯ แล้วก็ตาม
นอกจากนี้ ลักษณะคดีที่จะยื่นให้มีการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนได้ต้องไม่เป็น
คดีหรือเรื่องที่ศาลได้เคยมีค าพิพากษาหรือออกค าสั่งโดยเด็ดขาดมาแล้ว หากศาลได้เคยมีค า
- 166 -