Page 195 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 195

ั
                  กสม. เตรียมจัดรับฟงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางจากองค์กรเครือข่ายภาคประชาสังคมทั่ว
                  ประเทศ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าสภาร่างรัฐธรรมนูญไม่เปิดโอกาสให้กสม.น าเสนอบทเรียน
                                                                    ั
                  ดังกล่าวก่อนการยกร่าง แต่กลับตั้งกรรมาธิการรับฟงความคิดเห็นจาก 12 องค์กร ตามที่

                  รัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ.2549 ก าหนดไว้ซึ่งรวมทั้ง กสม.ด้วย
                                                                                          ั
                         กระบวนการและวิธีการที่คณะกรรมาธิการฯ ชุดดังกล่าวด าเนินการรับฟงความคิดเห็น
                  ในเวลาที่จ ากัด โดยจัดเวทีขนาดใหญ่ระดับภูมิภาค ท าแบบสอบถามมายังบุคลากรกสม. และเชิญ

                  ให้กสม.ไปน าเสนอในเวลาที่จ ากัดมากท าให้กสม.ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกระบวนการดังกล่าวเพราะ

                  กสม.เองได้เตรียมการจัดรณรงค์ร่วมกับองค์กรเครือข่ายอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ ตั้งแต่เริ่มต้น

                  อยู่แล้ว เพื่อสรุปบทเรียนจากรัฐธรรมนูญ 2540 และระดมความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่

                  โดยจัดกับองค์กรเครือข่ายทุกภูมิภาค และแยกจัดเฉพาะประเด็นเพิ่มเติม เช่น สิทธิคนท างานทุก

                  กลุ่ม กลุ่มชาติพันธ์ กลุ่มผู้หญิง ผู้มีความหลากหลายทางเพศ ผู้พิการ กลุ่มองค์กรส่วนท้องถิ่น
                                            ั
                  สิทธิบัตรและทรัพย์สินทางปญญา และสุดท้ายได้จัดท าข้อมูลเป็น “รัฐธรรมนูญ ฉบับเจตนารมณ์

                  ประชาชน” เสนอต่อสภาร่างรัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการ รวมทั้งจัดพิมพ์เผยแพร่ต่อสาธารณะ
                                                                        ั
                         ในสถานการณ์ช่วงเวลาดังกล่าว การร้องเรียนและปญหาจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน
                  โดยหน่วยงานของรัฐ จากกฎหมายและนโยบายของรัฐ ยังด าเนินไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาล

                  ชุดก่อน อันเป็นผลจากเรื่องร้องเรียนที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงก่อนการรัฐประหาร และประกอบกับ

                  ทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาลชั่วคราวที่ยังเน้นทิศทางการส่งออกและอัตราการเติบโต

                  ทางเศรษฐกิจเช่นเดิม ไม่ได้เน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิต สวัสดิการสังคม และสิ่งแวดล้อม อีกทั้ง

                  โครงสร้างการจัดการของหน่วยงานของรัฐโดยพื้นฐาน ยังเน้นการใช้อ านาจมากกว่าการใช้สิทธิ

                  การมีส่วนร่วมจัดการและร่วมตัดสินใจของภาคประชาชน จึงท าให้กลุ่มความขัดแย้งขั้นพื้นฐาน
                  โดยเฉพาะความขัดแย้งในการจัดการฐานทรัพยากรด าเนินไปอย่างกว้างขวางในขอบเขต

                                                                                                    ่
                  ทั่วประเทศเช่นเดิม ประชาชนและชุมชนท้องถิ่นโดยเฉพาะกลุ่มชายขอบต่างๆ มักจะตกเป็นฝาย
                                                                             ั
                  เสียเปรียบทั้งต่อกลุ่มทุนและนโยบายของรัฐ รวมทั้งยังคงด ารงปญหาเกี่ยวกับสิทธิในกระบวน
                  การยุติธรรมที่ยังคงมีการร้องเรียนสูงมากเช่นทุกปี

                         เมื่อวันที่ 24  สิงหาคม 2550  มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

                  พุทธศักราช 2550 และรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้บัญญัติเกี่ยวกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

                  ไว้ในมาตรา 256 มาตรา 257 และมาตราที่เกี่ยวข้องแตกต่างไปจากที่รัฐธรรมนูญ 2540

                         รัฐธรรมนูญ 2550 ได้แบ่งองค์กรตามรัฐธรรมนูญเป็น 2 ประเภท ประเภทแรก คือ องค์กร

                  อิสระตามรัฐธรรมนูญ 4 องค์กร คือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมการ
                    ้
                  ปองกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  และคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และอีกประเภท


                                                          - 150 -
   190   191   192   193   194   195   196   197   198   199   200