Page 118 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 118
ในชั้นต้นของกระบวนการพิจารณาว่าจะยอมรับไว้พิจารณาหรือไม่นั้น โดยทั่วไปแล้วจะ
กระท าเป็นลายลักษณ์อักษร ถึงแม้ว่าศาลจะตัดสินให้ท าการพิจารณาในกรณีที่ประเด็นของคดีมี
ความสัมพันธ์กันกับเนื้อหาแห่งคดีที่จะต้องได้รับการบันทึกด้วยวิธีอื่นแยกไว้ต่างหากก็ตาม ส่วน
้
ในกรณีที่ศาลได้ตัดสินว่าจะรับไว้พิจารณาหรือรับฟองนั้นก็จะต้องได้รับการลงคะแนนเสียงข้าง
มาก และจะต้องระบุถึงเหตุผลลงไปด้วย และท้ายสุดก็ท าการเผยแพร่สาธารณชนต่อไป
4.2.9 การพิจารณาด าเนินเรื่องร้องทุกข์
กระบวนการพิจารณา (Procedure on the merits) เมื่อศาลได้ท าการตัดสินรับค า
ร้องเรียนนั้นแล้ว ศาลอาจจะท าการแนะน าคู่กรณีในเรื่องเกี่ยวกับพยานหลักฐานและท าความเห็น
หรือข้อสังเกตเป็นลายลักษณ์อักษร รวมทั้งการเรียกร้องให้มีการชดเชย (just satisfaction) ของผู้
ร้อง และท าการเผยแพร่การพิจารณาข้อถูกผิดของคดีต่อสาธารณชน
ประธานศาลอาจจะจัดการบริหารกระบวนการให้ความยุติธรรมที่เหมาะสม ให้ค าแนะน า
หรืออนุญาตให้ออกจากกระบวนการ แก่รัฐภาคีอนุสัญญาใดที่มิได้เป็นคู่กรณีหรือแค่บุคคลใดที่
เกี่ยวข้องกับคดีแต่มิได้เป็นผู้ร้องเรียนในการเสนอความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรและพฤติการณ์
ั
แวดล้อมที่ได้รับการยกเว้นให้รับฟงได้ (Exceptional circumstances) หรือการตั้งตัวแทนในการ
พิจารณาเป็นต้น รัฐภาคีอนุสัญญาที่เป็นเจ้าของสัญชาติของผู้ร้องเรียนนั้นย่อมมีสิทธิที่จะเข้า
แทรกแซงหรือเข้ามาในคดีได้
4.2.10 การตรวจสอบ และไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
ในระหว่างกระบวนการการพิจารณาเนื้อหาแห่งคดีนี้ มีจุดมุ่งหมายในการเจรจา
ประนีประนอม (Negotiations) ให้มีการระงับข้อพิพาทฉันท์มิตร (friendly settlement) ซึ่งการ
ระงับข้อพิพาทฉันท์มิตรนี้อาจจะได้รับการไกล่เกลี่ยโดยคนกลางอย่างนายทะเบียน (The
Registrar) ก็ได้ การเจรจาประนีประนอมให้ระงับข้อพิพาทโดยมิตรวิธีนี้จะกระท าเป็นความลับ
(confidential)
คู่ความในคดีอาจยื่นค าร้องขอเพื่อให้มีการตีความค าพิพากษาของศาลภายในระยะเวลา
1 ปี นับแต่ได้มีการส่งค าพิพากษานั้นโดยไปยื่นต่อส านักทะเบียนของคณะกรรมการรัฐมนตรี
คณะผู้พิพากษา ร่วมกันพิจารณาความหมายของค าพิพากษา ในการปฏิบัติหน้าที่การตีความนี้
จะต้องท าภายในเวลาจ ากัด และที่ประชุมมีอ านาจเขียนบทวิจารณ์ค าพิพากษานั้นด้วย
- 74 -