Page 113 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 113

คู่กรณีมีหน้าที่โดยต าแหน่งในองค์คณะ ก็จะใช้องค์คณะ 7 ท่านเช่นกัน ภาษาทางการที่ใช้คือ

                  ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส โดยที่คู่กรณีอาจมีตัวแทนและมีที่ปรึกษากฎหมายได้



                         ผู้พิพากษา

                         ผู้พิพากษาศาลสิทธิมนุษยชนประกอบไปด้วยผู้พิพากษาจากจ านวนเท่ากันกับจ านวนรัฐ

                  ภาคีอนุสัญญาฯ ตามมาตรา 38 แห่งอนุสัญญาฯ โดยรัฐภาคีอาจจะเสนอรายนาม ผู้พิพากษาที่มี
                  สัญชาติอื่นในนามของตนก็ได้ เช่น ประเทศลิกเตนสไตน์ได้เคยเสนอชื่อนาย โรนัล แม็คโดนัล

                  สัญชาติแคนาดา เป็นผู้แทนของตน แต่อย่างไรก็ตามจะต้องไม่มีผู้พิพากษาสัญชาติเดียวกันด ารง

                  ต าแหน่งพร้อมกัน ถึงแม้ว่าผู้พิพากษาเหล่านั้นจะได้รับการเสนอชื่อจากรัฐภาคีอื่นตามมาตรา 38

                  ก็ตาม

                         ผู้พิพากษาเหล่านี้จะมีคุณสมบัติเป็นข้าราชการหรือมีต าแหน่งหน้าที่ในรัฐบาล โดยผู้

                  พิพากษาต้องท างานโดยความรู้ความสามารถของตน มีความเป็นอิสระ โดยจะประกอบอาชีพอัน

                  กระทบกระเทือนต่อความมีอิสระแห่งตนไม่ได้ และไม่ได้ปฏิบัติงานในนามของรัฐที่เสนอชื่อแต่
                  อย่างใด

                         ภายหลังพิธีสารฉบับที่ 11 มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 1998 กระบวนการ

                  คัดเลือกผู้พิพากษาส าหรับสิทธิมนุษยชนใหม่ มีความแตกต่างจากศาลสิทธิมนุษยชนเดิมอยู่บ้าง

                  เช่น ในส่วนของบทบัญญัติมาตรา 22 และ 23 ที่มีการแก้ไขปรับปรุงใหม่จากเดิมในมาตรา 38 ,39

                  และ 40 ดังต่อไปนี้ คือ

                         1) ผู้พิพากษาจะต้องได้รับการคัดเลือกจากการยอมรับของภาคีสมาชิกแห่งอนุสัญญา

                  เท่านั้น

                         2) วาระการเกษียณอายุเพียง 70 ปี

                         3) ภาคีสมาชิกต้องการให้วาระการด ารงต าแหน่งสั้นลงจาก 9 ปี เหลือเพียง 6 ปี
                                                                         ั
                         4) ประโยคสุดท้ายของมาตรา 38 เก่า นั้นก่อให้เกิดปญหา กล่าวคือ เมื่อประเทศลิกเตน
                  สไตน์ไม่สามารถหาผู้พิพากษาที่เหมาะสมได้เพราะพลเมืองของตนมีทั้งสัญชาติออสเตรียและสวิส

                  จึงจ าเป็นต้องเสนอบุคคลสัญชาติแคนาดาเป็นผู้แทนของตนดังที่กล่าวมาแล้ว

                         ต่อมาผู้พิพากษาที่ได้รับการเสนอชื่อก็จะได้รับการพิจารณาคัดเลือกโดยสมัชชารัฐสภา

                  แห่งยุโรป (The parliamentary Assembly of the Council of Europe) ในวาระคราวละ 6 ปี และ

                  จะมีการคัดเลือกใหม่ทุกๆ 3 ปี และเกษียณเมื่อครบอายุ 70 ปี ส่วนศาลองค์คณะใหญ่ (the

                  Plenary Court) จะมีการคัดเลือกประธานจ านวน 1 นาย รองประธาน 2 นาย





                                                          - 69 -
   108   109   110   111   112   113   114   115   116   117   118