Page 466 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 466
พิจารณา เห็นว่า เพื่อให้โครงการพัฒนาการในเขตปฏิรูปที่ดินและโครงการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
่
ในพื้นที่ปาสงวนแห่งชาติดําเนินการได้โดยไม่มีอุปสรรคและถูกต้องตามกฎหมาย จึงข้อเสนอให้
คณะรัฐมนตรีพิจารณา ดังนี้
่
่
1. ให้กรมปาไม้เพิกถอนสภาพปาสงวนแห่งชาติภายใต้โครงการพัฒนาการในเขตปฏิรูป
ที่ดินตามกําหนดเวลาดังนี้
่
่
1.1. ปาวังโปง – วังกําแพง จังหวัดเพชรบูรณ์ ภายในเดือนธันวาคม 2525
่
่
่
1.2. ปาห้วยสัก – แม่กก จังหวัดเชียงราย ปาบึง นาราง จังหวัดพิจิตร ปาเขารวก – เขา
สูง จังหวัดนครสวรรค์ ภายในเดือนกันยายน 2526
่
่
่
1.3. ปาห้วยยาง ปาเขาภูหลวง ปาวังนํ้าเขียว จังหวัดนครราชสีมา ภายในเดือนกันยายน
2528
่
่
่
2. ให้กรมปาไม้เร่งรัดการเพิกถอนสภาพปาสงวนแห่งชาติ ปาชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ให้
แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2527
่
่
3. สําหรับปาสงวนแห่งชาติอื่นๆ ที่กรมปาไม้มอบให้ ส.ป.ก. ดําเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
่
่
เกษตรกรรม ให้กรมปาไม้เพิกถอนสภาพหลังจากที่ ส.ป.ก. ได้จัดที่ดินเสร็จแล้ว และแจ้งให้กรมปาไม้
ทราบ
่
่
4. ให้ ส.ป.ก. เข้าไปดําเนินการปฏิรูปที่ดินในพื้นที่ปาสงวนแห่งชาติที่กรมปาไม้ได้มอบให้
ส.ป.ก. เพื่อดําเนินการปฏิรูปที่ดินโดยไม่ต้องชําระค่าธรรมเนียม ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 481 (พ.ศ.
่
2515) ออกตามความในพระราชบัญญัติปาสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ทั้งนี้ ตามหลักการเดิมที่ได้รับ
อนุมัติจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2520
่
่
วันที่ 31 สิงหาคม 2525 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมปาไม้เพิกถอนสภาพปาสงวน
่
่
่
แห่งชาติภายใต้โครงการพัฒนาการในเขตปฏิรูปที่ดิน (ปาวังโปง – วังกําแพง จังหวัดเพชรบูรณ์ ปา
่
่
ห้วยสัก – แม่กก จังหวัดเชียงราย ปาบึงนาราง จังหวัดพิจิตร ปาเขารวก – เขาสูง จังหวัดนครสวรรค์
่
่
่
่
ปาห้วยยาง ปาเขาภูหลวง ปาวังนํ้าเขียว จังหวัดนครราชสีมา และปาชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี)ตามที่
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอทั้ง 4 ข้อ
2.3 มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2535 เรื่อง การจําแนกเขตการใช้
ประโยชน์ทรัพยากรและที่ดินป่าไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17
มีนาคม 2535 เรื่อง ผลการจําแนกเขตการใช้ประโยชน์ทรัพยากรและที่ดินป่าไม้ในพื้นที่ป่า
สงวนแห่งชาติเพิ่มเติม
่
รายละเอียดตามมติคณะรัฐมนตรีนี้ เขียนไว้แล้วในประเด็นที่ดินปาไม้
8‐31