Page 49 - เสียงจากชุมชน : ข้อกังวลเกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและโครงการที่เกี่ยวข้อง
P. 49

•   “การชดเชยนั้นกำาหนดราคาไม่เท่ากันกับพื้นที่อื่น ๆ ที่  ตรงนี้  ต้นไม้พวกนี้ปลูกก่อนที่บริษัทไทยจะเข้ามา ตอน
               มีขนาดเท่ากัน โดยมีอัตราเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ของค่า  นี้ก็  8  ปีมาแล้ว  แต่พวกเขากลับจ่ายค่าชดเชยให้กับ
               ชดเชยต่อเอเคอร์ที่ควรจะได้รับ” – ชาวนารับจ้าง หมู่บ้าน  ต้นไม้เพียงชนิดเดียว”  หนุ่มชาวสวนจากหมู่บ้านเว็ต
               บาวาร์                                          ชอง กล่าว
            •   “การจัดสรรค่าชดเชยนั้นถูกชี้นำาด้วยอคติ ราคาของไร่  •   ชาวสวนจากหมู่บ้านเว็ตชองอีกคนหนึ่งได้กล่าวว่า
               นาคุณภาพชั้นหนึ่งไม่ได้สะท้อนถึงมูลค่าของพืชผล  ต้นมะม่วงและต้นหมากไม่ได้ถูกรวมไว้ในการคํานวณ
               เศรษฐกิจ  หรือราคาที่ได้ซื้อมาแต่เดิมเลยแม้แต่น้อย”   มีการคํานวณเพียงต้นยางพาราเท่านั้น  “[อย่างไรก็ตาม]
               – ชาวบ้าน หมู่บ้านเลชอง                         ต้นไม้ทุกชนิดทำาเงินทั้งนั้น  มันสร้างรายได้ซึ่งเราต้อง
            •   กลุ่มชาวนาจากหมู่บ้านเลชองกล่าวว่า      “บริษัท   พึ่งพาในการเลี้ยงชีพ”
               อิตาเลียนไทยฯ  ได้สัญญาว่าจะให้ค่าชดเชยในอัตรา
               ที่สมนำ้าสมเนื้อกับคุณภาพของที่ดินที่ได้สำารวจไป   ไม่มีก�รชดเชยแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจ�กกิจกรรม
               และถ้าหากที่ดินของพวกเขาได้รับการชดเชยอย่าง  ก�รดำ�เนินง�นต่�ง ๆ โครงก�ร
               เหมาะสม  พวกเขาก็พอใจที่จะไปซื้อที่ดินทำาสวนใหม่  •   ชาวนาจากหมู่บ้านมะยินจีได้บรรยายถึงสถานการณ์
               นอกเขตเศรษฐกิจพิเศษ”  แต่ว่าชาวบ้านกลุ่มนี้กล่าว  ที่ที่นาของเขาเสียหายจากนํ้าท่วมเนื่องจากการพัง
               ว่า  “พวกเขาไม่เห็นว่าเงินที่ทางบริษัทอิตาเลียนไทย  ทลายของเนินเขาทางด้านหลังของถนนซึ่งอยู่ใกล้กับ
               เสนอมาจะถูกต้องตามกฎหมาย  เนื่องจากมันไม่เพียง  ที่นาของเขา ซึ่งเป็นผลมาจากการดําเนินงานของโครงการ
               พอ  และมีการจ่ายล่วงหน้าให้กับชาวบ้านเพียงบางคน  “หากพิจารณาที่นาด้วย  มันก็ประมาณ  200  เอเคอร์
               เท่านั้น”                                       แต่ไม่มีการจ่ายค่าชดเชยสำาหรับที่นานั่นเลยแม้แต่
            •   กลุ่มชาวนาจากหมู่บ้านซินปิวตายได้ให้ข้อมูลว่า พวก  น้อย”                                    บทที่ 2
               เขาไม่ได้รับเงินค่าชดเชยเนื่องจาก “เราไม่มี ‘ใบอนุญาต  •   ชาวบ้านจากหมู่บ้านเลชองยังกล่าวอีกว่า  ค่าชดเชย
               ใช้ที่ดิน’ อยู่ในมือ”  ทั้งนี้ เพราะว่าพวกเขาไม่มีเอกสาร  ควรจะพิจารณารวมถึงทั้งที่ทํากิน  ที่สวน  และวิถีการ
               ทางการที่แสดงสิทธิในที่ดิน                      ดํารงชีพของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากการ
                                                               ดําเนินงานของโครงการ  และผลที่เกิดขึ้นตามมาด้วย
            ก�รคำ�นวณค่�ชดเชยไม่ได้พิจ�รณ�ถึงคว�มหล�ก          (ไม่ใช่พิจารณาเพียงแต่ตัวที่ดินที่ถูกยึดไปเท่านั้น)
            หล�ยของวิถีก�รดำ�รงชีพของช�วบ้�นที่จะต้องถูก
            โยกย้�ย


            •   ค่าชดเชยนั้นให้เพียงแค่ค่าต้นไม้ที่อยู่บนที่ดิน  แต่ไม่
               ได้ให้สําหรับที่ดินและมูลค่าที่ที่ดินมีให้  ยกตัวอย่าง
               เช่น  ให้ร่มเงากับปศุสัตว์    “เราปลูกต้นมะม่วงไว้เพื่อ
               เป็นร่มเงาสำาหรับการเลี้ยงปศุสัตว์  ถึงแม้ว่ามีที่ดิน 10
               เอเคอร์  แต่เราก็ได้ค่าชดเชยเพียง  1,000,000  จั๊ต
               [30,000  บาท]  นั่นเพราะเราปลูกต้นมะม่วงเพียง  10
               ต้นเท่านั้น” ชาวบ้านจากหมู่บ้านมูดู กล่าว
            •   บนที่ดินที่ปลูกพืชและต้นไม้หลากชนิด  “ผมปลูกต้นไม้
               กว่า  900  ต้น  ผมได้รับค่าชดเชยจากต้นไม้เพียงชนิด
               เดียวเท่านั้น ไม่ต้นยางพาราก็ต้นมะม่วง  ผมไม่พอใจ



                                                                                                        49
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54