Page 65 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกับการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในความสัมพันธ์ระหว่างเอกชนด้วยกัน
P. 65

๖๑






                                     ตอมา ศาลรัฐธรรมนูญไดมีคําวินิจฉัยไวอีกเรื่องหนึ่งวา การที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ
                       รับรองเรื่องศักดิ์ศรีความเปนมนุษยไวในรัฐธรรมนูญ ยอมเปนการสรางหลักประกันแกบุคคลในฐานะที่

                       บุคคลนั้นเปนมนุษย ศักดิ์ศรีความเปนมนุษยจึงเปนหลักสูงสุดของรัฐธรรมนูญ ดังนั้น การกระทําของรัฐ
                       ทั้งหลายจึงตองสอดคลองกับคุณคาอันสูงสุดของรัฐธรรมนูญดวย ทั้งนี้เพราะมนุษยถือเปนเปาหมาย

                       ในการดําเนินการของรัฐ มิใชเปนเพียงเครื่องมือในการดําเนินการของรัฐ การดํารงอยูของรัฐก็เปนการ
                       ดํารงอยูเพื่อมนุษย มิใชมนุษยดํารงอยูเพื่อรัฐ ดวยเหตุนี้ ศักดิ์ศรีความเปนมนุษยจึงเปนพื้นฐานสําคัญ
                                                                                        ๑๐๙
                       สําหรับการวางรากฐานของหลักเสรีภาพของบุคคล และหลักความเสมอภาค   ซึ่งกอใหเกิดผล
                       สําคัญ ๒ ประการคือ ประการแรก การตีความเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพทั้งหลายจะตองถือวาเนื้อหา
                       ของศักดิ์ศรีความเปนมนุษยเปนพื้นฐานที่จะตองนํามาใชประกอบในการตีความสิทธิและเสรีภาพ
                       ประเภทอื่นๆ ดวย และประการที่สอง อาจกลาวไดวาเนื้อหาในทางหลักการทั่วไปเกี่ยวกับสิทธิและ

                       เสรีภาพทั้งหลายรวมทั้งความหมายของการแทรกแซงในขอบเขตที่ไดรับการคุมครองของสิทธิและ
                       เสรีภาพทุกประเภทนั้นไดรับการพัฒนาจากศักดิ์ศรีความเปนมนุษย

                                     เหตุผลสําคัญที่ตองนําเรื่องศักดิ์ศรีความเปนมนุษยมาอธิบายในฐานะเปนรากฐาน
                       ของสิทธิมนุษยชนเพราะเหตุวาศักดิ์ศรีความเปนมนุษยนั้นแทจริงแลวมีฐานะเปนสาระสําคัญแหงสิทธิ

                       และเสรีภาพทั้งปวง ซึ่งความสําคัญดังกลาวจะมีผลตอการกําหนดทิศทางของรัฐในฐานะเปน
                       ตัวกําหนดและเปนขอจํากัดการดําเนินภาระหนาที่ของรัฐ โดยเฉพาะอยางยิ่งการตรากฎหมายเพื่อ

                       จํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลโดยฝายนิติบัญญัติ เนื่องจากรัฐธรรมนูญในรัฐเสรีประชาธิปไตย

                       ทั้งหลายวางหลักไววา ฝายนิติบัญญัติจะตรากฎหมายซึ่งมีผลเปนการจํากัดสิทธิและเสรีภาพ
                       ตามรัฐธรรมนูญโดยกระทบกระเทือนถึงสาระสําคัญแหงสิทธิมิได (Wesengehaltsgarantie)

                       จากหลักประกันดังกลาวกอให เกิดคําถามวา อะไรคือสาระสําคัญแหงสิทธิและเสรีภาพแตละประเภท

                       และมีขอบเขตแคไหนเพียงไร ประเด็นคําถามนี้เปนปญหาที่ยังขาดความชัดเจน ตอมาจึงไดมีการเสนอ
                       ใหนําหลักศักดิ์ศรีความเปนมนุษยมาเปนหัวใจหรือสาระสําคัญของสิทธิและเสรีภาพ โดยใหถือวา

                       ศักดิ์ศรีความเปนมนุษยเปนสารัตถะอันเปนแกนของสิทธิและเสรีภาพแตละประเภท ซึ่งรัฐไมอาจลวง

                              ๑๐๙
                                แนวคิดเกี่ยวกับศักดิ์ศรีความเปนมนุษยประกอบดวยรากฐานอันเปนสาระสําคัญ ๒ ประการที่ไมอาจ
                       แยกออกจากกันได คือ สิทธิในชีวิตและรางกาย และสิทธิในความเสมอภาค
                                 สิทธิในชีวิตและรางกาย เปนสิทธิขั้นพื้นฐานที่แสดงใหเห็นวามนุษยมีอิสระที่จะกําหนดตนเองได
                       ตามเจตจํานงที่ตนประสงคในอันที่จะพัฒนาบุคลิกภาพสวนบุคคลซึ่งทําใหมนุษยมีความแตกตางจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
                                 สิทธิในความเสมอภาค เปนการแสดงใหเห็นวามนุษยทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพเทาเทียมกัน

                       เพราะแมวามนุษยจะมีสิทธิในชีวิตและรางกายของตนแตหากขาดหลักประกันในเรื่องความเสมอภาคแลว บุคคลนั้น
                       อาจไดรับการปฏิบัติอยางไมเทาเทียมกับบุคคลอื่นๆ ในสังคมหรืออาจถูกเลือกปฏิบัติจากผูใชอํานาจรัฐ ดังนั้น
                       นอกจากบุคคลจะตองมีสิทธิในชีวิตและรางกายแลว บุคคลยังจะตองไดรับหลักประกันในเรื่องความเสมอภาคดวย

                       ซึ่งตองเขาใจตอไปดวยวาเสรีภาพในการกําหนดตนเองจะมีความเทาเทียมกันในสายตากฎหมายเทานั้น
                       เพราะในทางความเปนจริงแลวบุคคลยอมมิอาจเทาเทียมกันไดในทุกๆ ดาน
   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70