Page 64 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกับการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในความสัมพันธ์ระหว่างเอกชนด้วยกัน
P. 64

๖๐





                                     คณะกรรมการที่ปรึกษาแหงชาติดานสิทธิมนุษยชนยังสามารถกําหนดมาตรการ
                       ตางๆ ที่จําเปนเพื่อการคุมครองและสงเสริมสิทธิมนุษยชน และเสนอมาตรการนั้นตอนายกรัฐมนตรี

                                             ๑๐๖
                       หรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวของได105  อีกดวย
                                     ทั้งนี้ คณะกรรมการปฏิบัติตามอํานาจหนาที่ของตนโดยเปนอิสระอยางเต็มที่
                                               ๑๐๗
                       (en toute independance)106
                                     อนึ่ง นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีสามารถขอความเห็นจากคณะกรรมการได หรือ
                                                                         ๑๐๘
                       ขอใหคณะกรรมการทําการศึกษาเรื่องหนึ่งเรื่องใดที่เกี่ยวของ 107

                              ๒.๒.๒. บทบาทและอํานาจหนาที่ขององคกรที่ทําหนาที่คุมครองสิทธิมนุษยชนในประเทศ
                       สหพันธสาธารณรัฐเยอรมนี


                                     ในชวงระยะเวลาระหวางสงครามโลกครั้งที่ ๑ กับครั้งที่ ๒  ไดเกิดระบอบการ
                       ปกครองแบบเผด็จการ ซึ่งกอตัวขึ้นในสหพันธสาธารณรัฐเยอรมนี  เมื่อ ค.ศ. ๑๙๒๐ และดําเนินตอไป
                       จนถึงสงครามโลกครั้งที่ ๒ ระบอบการปกครองดังกลาว ไดมีการลวงละเมิดสิทธิมนุษยชนอยางรุนแรง

                       ในขณะที่สงครามโลกครั้งที่ ๒ ทําใหเกิดการทําลายลางชีวิต และศักดิ์ศรีของมนุษยชนอยางกวางขวาง
                       รวมทั้งความพยายามที่จะทําลายกลุมชนตางๆ โดยอางเหตุแหงเชื้อชาติและศาสนา ดังนั้น จึงปรากฏ
                       อยางแนชัดวา จําเปนตองมีบทบัญญัติระดับนานาชาติ เพื่อเปนเครื่องมือในการคุมครองสิทธิมนุษยชน

                       เพราะการเคารพสิทธิมนุษยชนนับเปนหนทางสําคัญที่จะนําไปสูสันติภาพและความสงบสุขของโลก
                       เหตุการณดังกลาวเปนบทเรียนสําคัญที่สงผลใหสหพันธสาธารณรัฐเยอรมนี ไดใหความสําคัญกับเรื่อง

                       สิทธิมนุษยชนเปนอยางมาก โดยรัฐธรรมนูญของสหพันธสาธารณรัฐเยอรมนี ไดมีการบัญญัติรับรอง
                       และคุมครองสิทธิมนุษยชนไวอยางชัดเจน โดยเฉพาะ “ศักดิ์ศรีความเปนมนุษย” ซึ่งรัฐหรือบุคคลอื่น
                       จะลวงละเมิดไมได  โดยถือวา“ศักดิ์ศรีความเปนมนุษย” เปนรากฐานของสิทธิมนุษยชน

                       ซึ่งตามแนวคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแหงสหพันธของเยอรมันไดเคยวินิจฉัยเกี่ยวกับความหมาย
                       ของศักดิ์ศรีความเปนมนุษยไววา ศักดิ์ศรีความเปนมนุษยนั้นเปนการเรียกรองการสรางตนเองอยาง
                       อิสระของบุคคล เนื่องจากมนุษยมีคุณลักษณะสวนบุคคลที่มีความสามารถสรางชีวิตบนความ

                       รับผิดชอบของตนเองได ดังนั้น เพื่อเห็นแกศักดิ์ศรีความเปนมนุษยจึงตองทําใหเกิดความมั่นคงแก
                       บุคคลในอันที่จะพัฒนาลักษณะสวนบุคคลใหมากที่สุดเทาที่จะเปนไปได สําหรับในรัฐประชาธิปไตย
                       ศักดิ์ศรีความเปนมนุษยถือเปนสิ่งที่มีคุณคาสูงสุดอันมิอาจลวงละเมิดได จึงเปนสิ่งที่ตองไดรับความ

                       เคารพและไดรับความคุมครองจากรัฐ









                              ๑๐๖
                                  Art. 1, al. 1, L. 5 mars 2007
                              ๑๐๗
                                 Art. 1, al. 2, L. 5 mars 2007
                              ๑๐๘
                                 Art. 2, al. 1, D. 26 juillet 2007
   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69