Page 28 - รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
P. 28
รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
2 ต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
และความเสมอภาคของบุคคล ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบการตรวจสอบ
การละเมิดสิทธิทางด้านสุขภาพ เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีชาวบ้านในพื้นที่ตำาบลมาบตาพุด อำาเภอ
เมือง จังหวัดระยอง ประสบปัญหาและผลกระทบด้านสุขภาพจากมลพิษสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากโรงงาน
อุตสาหกรรม แต่รัฐบาลมิได้พิจารณาแก้ไขปัญหาโดยทันที รวมทั้งมิได้เร่งผลักดันให้รัฐบาลและ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้องและทันต่อเวลา เพื่อให้สิทธิของประชาชนในการดำารง
อยู่อย่างปลอดภัยทางด้านสุขภาพเป็นจริงต่อไป โดยผู้ร้องเรียนได้นำาส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องประกอบ
หนังสือร้องเรียนมาด้วย จำานวน ๙ รายการ
๑.๒ ประเด็นข้อร้องเรียน
๑.๒.๑ การกระทำาของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหากรณีมาบตาพุดโดยไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๖๗ วรรคสอง
ในหนังสือร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกต่อคณะกรรมการสิทธิ
มนุษยชนแห่งชาติ ฉบับลงวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๓ ปรากฏ “ประเด็นหลัก” ของข้อร้องเรียน คือ
การกระทำาต่างๆ ของรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่มาบตาพุดเป็นการกระทำาที่ไม่ถูกต้องตาม
รัฐธรรมนูญและไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และการกระทำาดังกล่าวมีลักษณะ
เป็นการบริหารประเทศที่มิได้มีเจตนามุ่งคุ้มครองประโยชน์ของประชาชนตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี
ส่วน “ประเด็นย่อย” ในเรื่องต่างๆ ที่ประกอบกันเป็นประเด็นหลัก ได้แก่
๑.๒.๑.๑ การที่รัฐบาลประกาศเพื่อกำาหนดประเภทโครงการหรือกิจการที่เข้าข่าย
ก่อผลกระทบอย่างรุนแรง ตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ
จำานวน ๑๑ รายการ นั้น เป็นการกระทำาที่มีลักษณะ ดังต่อไปนี้
๑) เร่งรีบ โดยไม่ผ่านการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นอย่างทั่วถึง
จากนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิ และประชาชน
๒) ทำ�ต�มแบบพิธี โดยเพียงแต่หวังให้เกิดตัวประกาศ เพื่อที่จะนำา
ไปสู่การลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา และเพื่อนำาส่งศาล
ปกครองกลาง ตามลำาดับต่อไป
๓) มุ่งปกป้องกลุ่มอุตส�หกรรมให้หลุดจ�กก�รพิจ�รณ�คดี มากกว่า
ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่งอาจนำาไปสู่ความขัดแย้ง
ในวงกว้าง
๑.๒.๑.๒ การที่รัฐบาลไม่นำาข้อเสนอของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตาม
มาตรา ๖๗ วรรคสอง ในการกำาหนดประเภทโครงการหรือกิจการที่เข้าข่าย
ก่อผลกระทบอย่างรุนแรง ตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ